“ลายผิ่นอวี๋” ส.ส.สาวสวย ผู้ชนะการเลือกตั้งในไต้หวัน กับการ “แต่งคอสเพลย์” ขึ้นปราศรัย

กลายเป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกพูดถึงอย่างมากในแง่มุมการเมืองของต่างประเทศ หลังจากที่เธอเพิ่งชนะการเลือกตั้งในไต้หวันไปเมื่อวานนี้ (11 มกราคม 2020)…

เธอคนนั้นมีชื่อว่า ลายผิ่นอวี๋ (賴品妤) นักการเมืองสาววัย 27 ปี จาก พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ผู้เตรียมจะขึ้นดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติ (ไต้หวัน) ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2020 นี้

ลายผิ่นอวี๋ ถือว่าเป็นนักกิจกรรมทางการเมืองตั้งแต่สมัยที่เธอยังศึกษาทางด้านกฎหมายในมหาวิทยาลัย National Taipei University

เธอเคยร่วมขบวนการดอกทานตะวันในปี 2014 เป็นหนึ่งในผู้ประท้วงต่อต้านสัญญาไต้หวัน-จีน และร่วมการประท้วงทางการเมืองอีกหลายครั้ง

สิ่งแรกที่ทำให้เธอกลายเป็นที่จับตามองของหลายๆ คน ณ ตอนนี้ก็คืออายุของเธอ ซึ่ง ลายผิ่นอวี๋ นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในนักการเมืองวัยรุ่นยุคใหม่ที่จะเข้าไปสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับไต้หวัน

ครั้งหนึ่งเธอเคยขึ้นปราศรัยด้วยประโยคที่แสดงถึงพลังออกมาเป็นคำพูดว่า…

“ฉันต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่าผู้หญิงไต้หวันที่มีความฝัน แม้จะอายุยังน้อย ไม่มีประสบการณ์การเมืองมาก่อน ไม่ได้เป็นชนชั้นสูง แต่ก็สามารถเข้าไปสร้างจุดยืนในสภาได้”

และอีกสิ่งที่ทำให้เธอกลายเป็นจุดสนใจอย่างมากก็คือ การนำความชื่นชอบส่วนตัวของเธอมารวมเข้ากับการขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวที ซึ่งความชื่นชอบดังกล่าวนั้นก็คือ “การแต่งคอสเพลย์”

ลายผิ่นอวี๋ กับการกล่าวปราศรัยในชุดคอสเพลย์

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้หลายๆ คนรู้จักเธอมาก่อนที่จะลงเล่นการเมืองเลย กับการแต่งเป็นตัวละคร ตัวการ์ตูนต่างๆ ทำเอาบางคนถึงกับคิดภาพไม่ออกเลยว่ารูปลักษณ์ที่ดูน่ารักขนาดนี้ จะมาเป็นนักการเมืองได้อย่างไร?

ถึงอย่างนั้น เธอก็อยากให้ทุกคนลืมภาพนักการเมืองก่อนๆ ที่เคยเห็นไป เพราะเวทีนี้ก็ยังคงเป็นสถานที่ที่เปิดกว้างให้กับความแตกต่างของผู้คน และหวังว่าทุกคนจะเข้าใจในเรื่องนี้ด้วย

“ฉันแกล้งทำเป็นคนอื่นไม่ได้ ฉันหวังว่าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทุกคนจะมองฉันในแบบที่เป็นฉันจริงๆ เป็น ลายผิ่นอวี๋ ไม่ว่าจะตอนเลือกตั้งหรือตอนไหนก็ตาม”

การแต่งคอสเพลย์ขึ้นปราศรัยจึงกลายมาเป็นจุดสนใจของผู้คน ซึ่งมันก็เข้ากับนโยบายที่เธอเสนอเกี่ยวกับแนวทางพัฒนาการท่องเที่ยวในไต้หวันให้คึกคัก ตื่นเต้น เปรียบเทียบการเมืองกับการ์ตูนยุคใหม่

ขณะเดียวกัน เมื่อเธอต้องขึ้นพูดกับชุมชนผู้สูงอายุ เธอก็จะเปลี่ยนมาใส่ชุดให้เข้ากับผู้คนที่เธอไปเจอ เช่น ตอนที่ต้องคุยกับชาวบ้านผู้มีความทรงจำดีๆ กับญี่ปุ่น ลายผิ่นอวี๋ ก็เปลี่ยนมาใส่ชุดกิโมโนให้ดูนอบน้อม น่ารักแทน