จากกระแสไวรัลในช่วงนี้ เรื่องของการแชร์ภาพบ้านเช่ารก ซึ่งเจ้าของร้องเรียนตอนแรกว่าผู้เช่าทิ้งสภาพบ้านแบบดูไม่ได้ มีขยะเต็มไปหมด พร้อมกับข้อความที่ว่า “ไปแล้วนะ จุ๊บๆ”
อ่านข่าวก่อนหน้านี้: ดราม่าบ้านเช่า “ไปแล้วนะจุ๊บๆ” อาจคดีพลิก ฝั่งผู้เช่าบอก “เช่าแค่ที่ดิน” บ้านสร้างเอง-โดนบีบให้ออก
.
หลังจากนั้น มีกระแสการแชร์คอมเมนต์ของผู้เช่า ซึ่งออกมาพูดว่าตนเองนั้นลงทุนสร้างไปหลายแสนบาท แล้วถูกบีบให้ออก จนนำมาสู่เหตุการณ์ดังกล่าว
(ภาพด้านล่างเป็นคอมเมนต์จากฝั่งผู้เช่า ซึ่งกำลังถูกแชร์อย่างมากบนโลกออนไลน์)
ล่าสุดทางผู้ให้เช่า ได้ติดต่อทีมงานแคทดั๊มบ์เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นดราม่าดังกล่าว และชี้แจงประเด็นซึ่งอาจมีการบิดเบือน
เราเลยขอสรุปมาให้ผู้อ่านเข้าใจในหลายๆ ประเด็นครับ..
เรื่องการบีบให้ออก.. ไม่จริง
เขายืนยันว่าไม่ได้บีบให้ออกตามที่ฝั่งผู้หญิงกล่าว แต่เป็นเพราะหมดสัญญาเช่าตามที่ตกลงกันทีแรก ซึ่งเป็นแบบ 2 ปี ต่อทีละ 2 ปี แต่ทางฝั่งผู้เช่านั้นไม่ต่อสัญญาเอง
ทางเจ้าของที่ให้เวลาเก็บข้าวของเป็นสัปดาห์ แต่ก็ทำไม่แล้วเสร็จเสียที
ในส่วนของค่าเช่าที่ไม่ได้จ่ายมานานนั้น ผู้ให้เช่ายืนยันว่าขอยกหนี้ให้ และเลิกแล้วต่อกัน แต่เขาอยากแก้ข่าวว่าไม่เคยบีบให้ออกแต่อย่างใด
เรื่องสัญญาเช่ากับสามี
ผู้ให้เช่าเปิดเผยกับเราว่า ได้ทำสัญญาเช่ากับฝ่ายสามี ภายหลังสามีของเธอประสบอุบัติเหตุทุพพลภาพ เธอก็ไม่ค่อยใส่ใจดูแล ปล่อยให้อยู่บ้านนั้นเพียงลำพัง จึงทำให้สภาพบ้านเริ่มย่ำแย่
จนถึงขั้นที่แม่สามีนั้นทนไม่ไหว ขอเอาลูกชายไปอยู่ด้วยเอง ทำให้สถานที่ดังกล่าวไม่มีใครอยู่มาสักพักแล้ว
เรื่องผู้หญิงที่ออกมาโพสต์คอมเมนต์ดังกล่าว
สำหรับผู้หญิงในคอมเมนต์ดังกล่าว ผู้ให้เช่าขอยืนยันว่าไม่อยากจะให้ร้ายแก่ฝ่ายผู้หญิง แต่อยากจะชี้แจงข้อเท็จจริงว่าเธอปล่อยให้บ้านรก ไม่ได้ดูแลสามีซึ่งทุพพลภาพดีเท่าที่ควร รวมถึงมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย
(ทางผู้ให้เช่าบอกว่ามีอีกหลายประเด็น แต่ขอละไว้เพราะอาจจะเป็นการให้ร้ายมากเกินไป ซึ่งเรื่องดังกล่าวผู้ที่อยากทราบสามารถสอบถามกับคนในละแวก หรือตำรวจในพื้นที่ได้)
เรื่องสภาพบ้านที่มีทั้งการราดน้ำมันเครื่อง ข้าวของพัง และข้อความ “ไปแล้วนะ จุ๊บๆ”
ทางฝั่งหญิงสาวแจ้งกับเจ้าของที่ว่า เด็กที่ให้ไปขนย้ายของเป็นผู้ทำ ซึ่งก็ได้ทำการขอโทษกับทางผู้ให้เช่าไปแล้ว
บทสรุปของดราม่านี้ ทางผู้ให้เช่ายืนยันว่า เรื่องบีบให้ออกนั้นไม่จริง และสิ่งที่ชาวเน็ตเข้าใจว่าบีบให้ออกเพื่ออยากจะได้ตัวสิ่งปลูกสร้าง เป็นเรื่องที่บิดเบือน
ส่วนเรื่องที่ขอโทษพอโพยแล้วจบลง ไม่ได้ติดใจเอาความอะไร เขารู้ว่าข้อกฎหมายว่าจะไปฟ้องร้องเอากับคนที่ไม่สามารถหามาจ่ายได้ มันก็ไม่ได้อะไรขึ้น
แถมตอนนี้สภาพบ้านก็จัดการเรียบร้อย เขาจัดการเคลียร์ขยะไปแล้วเรียบร้อย
สุดท้ายอยากให้เรื่องราวจบด้วยดี ก็เลยไม่ได้ติดใจเอาความอะไรนั่นเอง..
เรียบเรียง #ประธานเหมียว
Advertisement
0 Comments