หนึ่งเรื่องที่ต้องยอมรับกันว่าประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดได้เป็นอย่างดี ด้วยระบบของทางสาธารณสุข บุคลากร และความพร้อมเพรียงของประชาชนที่ให้ความร่วมมือกันทุกส่วน
นั่นเป็นเพราะว่าคุณมักจะได้เห็นข่าวกันอยู่บ่อยๆ ที่ต่างประเทศ ในกรณีที่คนบางส่วนไม่ยอมใส่หน้ากากกัน อ้างเหตุผลร้อยแปด จนกลายเป็นเรื่องเป็นราวรวบตัวกันให้วุ่น
แต่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในไทยและชาวต่างชาติเองก็ชื่นชมมากๆ เป็นเพราะด้วยการนำระบบสแกนหน้ามาใช้เข้าห้าง หากใครไม่ใส่หน้ากากอนามัย หรือมีไข้สูง ประตูก็จะไม่ยอมเปิดให้เข้าห้าง…
Niall Harbison นักลงทุนด้านสื่อจากสหราชอาณาจักร ผู้ใช้ชีวิตอยู่ในเกาะสมุย ได้โพสต์คลิปบนทวิตเตอร์กล่าวชื่นชมระบบการสแกนหน้าเข้าห้าง ตรวจจับการใส่หน้ากาก ใครไม่ใส่ประตูก็จะไม่เปิด ส่วนใครที่มีไข้สูงก็จะเข้าไม่ได้เหมือนกัน
My local shops in Thailand. In 2 seconds scans my temperature and to see if wearing mask. Doors don’t open if not. 3 cases in 100+ days here. Removes awkward mask arguments for staff as well. pic.twitter.com/4Eac5fMsLR
— Niall Harbison (@NiallHarbison) October 4, 2020
“ห้างท้องถิ่นของผมในประเทศไทย ภายในสองวินาทีจะสแกนทั้งอุณหภูมิและดูว่าผมใส่หน้ากากหรือไม่ ประตูจะไม่เปิดถ้าไม่ใส่ มีคนติดเชื้อแค่ 3 รายตลอด 100 กว่าวันที่ผ่านมา (ระบบนี้) ไม่ต้องมาทะเลาะเรื่องหน้ากากกับพนักงานได้ด้วย”
เพราะจากหลายเดือนที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่ามีหลายคลิปที่เกี่ยวข้องกับพนักงานห้างร้านต่างๆ ต้องเจอถูกก่นด่าจากลูกค้าที่ไม่ยอมใส่หน้ากาก และตัวสแกนนี้เองก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เลี่ยงการปะทะแบบนั้นได้
คุณ Niall เปิดเผยกับเว็บไซต์ LADbible ว่า เทคโนโลยีมันน่าทึ่งมากๆ การให้เกียรติและวัฒนธรรมก็ช่วยหลอมคนให้ปฏิบัติตามกฎไปด้วย
เมื่อเทียบกับที่บ้านของเขาเองที่อังกฤษกับไอร์แลนด์ เขาแทบจะไม่เชื่อเลยว่าที่นั่นมีปัญหามากกว่าอีกเมื่อเทียบกับประเทศในเอเชีย เพราะที่นี่เขาไม่เคยเห็นใครดื้อไม่ยอมใส่หน้ากากเข้าห้างเลย
เมื่อได้เห็นภาพของต่างชาติ (ส่วนใหญ่เป็นชาวตะวันตก) ที่มักเชื่อกันว่าการบังคับใส่หน้ากากเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นไทยเอง ‘ไม่เคยตั้งคำถามหรือสงสัยในเรื่องนี้เลย’
เขากล่าวว่าเป็นเพราะการรับวัฒนธรรมการใส่หน้ากากเป็นสิ่งที่ทุกคนรับได้ และจากการเป็นส่วนหนึ่งของโลกนี้ มันก็เป็นการปฏิบัติที่ดีเพื่อป้องกันทั้งตัวเองและคนอื่นได้
ชาวเน็ตบางส่วนได้ตอบกลับทวีตของคุณ Niall ระบุว่า ต้องให้ชื่อคนเอเชียจริงๆ ที่สามารถจัดการได้ดีกว่าเป็นเพราะคนส่วนใหญ่เข้าใจเรื่องของส่วนรวม ขณะที่ชาวตะวันตกมักโยงการเมืองกับไวรัสและทำให้มันด้อยค่าลง ดูปัญญาอ่อนไปเลย
บางคนก็เคยอยู่ในไทยช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อลองเทียบความกลัวที่จะติดโควิดอยู่ในเอเชียนั้นมีน้อยมากเมื่อเทียบกับการเดินทางกลับไปสหรัฐอเมริกาเสียอีก
ที่มา: @NiallHarbison, ladbible
Advertisement