หลังจากที่เป็นประเด็นฉาวโฉ่กันไปทั่วโลกออนไลน์เมื่อชาวเน็ตต่างตั้ง #ศุลกากรหรือซ่องโจร เพื่อบอกเล่าประสบการณ์การสั่งสินค้านำเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งมีหลายเคสที่สินค้าหายบ้าง โดนยึดไว้บ้าง และมีการตีมูลค่าภาษีที่แพงเกินกว่าจะจ่ายไหวจนต้องทิ้งสินค้า…
แม้ว่าเรื่องจะเริ่มเงียบหายไปแล้ว ทางศุลกากรก็ออกมาชี้แจงผ่านสื่อต่างๆ แล้ว ทว่าในโลกแห่งความเป็นจริงยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ยังไม่ได้รับการพูดถึงมากนัก
โดยทางเพจ Branding by Boy ได้กล่าวถึงประเด็นคนในศุลกากรขโมยของไปขาย และสินค้าเหล่านั้นเป็นสินค้าที่ยึดมาประเมินราคาเพื่อเก็บภาษีแต่กลับมีภาษีที่สูงจนเจ้าของสินค้าต้องทิ้ง
ประสบการณ์บอกเล่าที่หลายคนเจอก็คือขึ้นอยู่กับ ‘ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่’ จะปล่อยผ่านจะมีส่วนลดก็ล้วนแล้วแต่เจ้าหน้าที่ ทั้งที่ทางศุลกากรชี้แจงไว้ว่าเป็นไปตามระเบียบการพิจารณาภาษีตามหลักสากล แต่กลับเจอประเมินภาษีที่สูงจนได้ไม่คุ้มเสีย
เรื่องดังกล่าวจึงต่อเนื่องมาถึงในโลกออนไลน์อีกรอบ เมื่อมีภาพของเหล่าแม่ค้าจากในกลุ่มขายของที่ยึดมาโดยกรมศุลกากร ซึ่งเป็นการตั้งข้อสงสัยในความเป็นไปได้ว่าทั้งภาพและหลักฐานสินค้าสต็อกที่นำออกมา รวมถึงรายได้จากธุรกิจมีคนได้ผลประโยชน์อย่างชัดเจน
หลายคนที่เจอประสบการณ์ถูกยึดของบ้าง บางส่วนก็เจอกับปัญหาของหายระหว่างทางทั้งที่ควรจะได้รับส่งถึงมือ จนกระทั่งมารับรู้กันภายหลังว่าของที่หายไปถูกนำมาขายผ่านทางช่องทางออนไลน์
ตามกระบวนการมาตรา 23 หากศุลกากรยังไม่ได้รับค่าอากร จะมีอำนาจสั่งยึดและนำไปขายทอตตลาด เงินที่ได้มาจะหักเป็นค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายยึดของและขายทอดตลาด ค่าอาการที่ไม่ได้เสียหรือเสียไม่ครบ
หากมีเงินเหลือจะส่งคือให้เจ้าของสินค้าตามมาตรา 24 แต่จะเป็นไปตามนี้ตลอดหรือไม่ก็คงต้องให้ศุลกากรเป็นผู้พิสูจน์
ทั้งนี้ยังมีช่องโหว่ในสินค้าประเภทต้องจำกัด มีราคาเกิน 40,000 บาท ยา พืชที่ต้องแสดงใบนำเข้า ที่จะกักสินค้าไว้ในคลังก่อนเป็นเวลา 30 วัน ให้ผู้รับมาแสดงตัวที่ศุลกากร ไม่มีการแจ้งภาษีล่วงหน้า ต้องมาเปิดต่อหน้าคลังเสียค่าเก็บสินค้า
หากเกิน 30 วันไม่มีใครมาแสดงตัว ทางศุลกากรจะเปิดสินค้าและเก็บอีก 30 วัน หากไม่มีเจ้าของมารับสินค้าชิ้นนั้น สินค้าที่ไม่มีมูลค่าจะมีการตีคืนกลับต่างประเทศหรือทำลายทิ้ง หากเป็นสิ่งของมีมูลค่า จะสามารถนำมาขายทอดตลาดได้
แล้วการขายทอดตลาดเป็นอย่างไร? ใครนำไปขาย ขาบที่ไหน ใครเป็นคนซื้อ คนราคากันอย่างไร มีหลักฐานการซื้อขายที่ถูกต้องชัดเจนหรือไม่?
นั่นจึงเป็นประเด็นที่นำมาสู่ของยึดถูกนำไปขายเป็นวงจรธุรกิจที่มีมูลค่าตัวเลขไม่ใช่น้อยๆ และยังไม่ทราบว่ามีใครตรวจสอบกันอย่างจริงจังหรือยัง เมื่อมีบุคคลภายในหรือรู้จักกันสามารถรับของจากคลังศุลกากรไปปล่อยขายแล้วนำเงินเข้ากระเป๋าตัวเองเช่นนี้
ที่มา: @Brandingbyl3oy
Advertisement
0 Comments