ย้อนกลับไปในปี 1959 ศิลปินสาวผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยว Malika de Fernandez ได้พบกับ พนักงานของสายการบิน Peter Reyn-Bardt ผู้ขอแต่งงานกับเธอในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเจอกัน
และทั้งสองก็แต่งงานจริงๆ กันแบบสายฟ้าแลบ ในเวลาเพียง 4 วันหลังจากนั้น ซึ่งมันอาจจะฟังดูเป็นเรื่องราวอันหอมหวาน แต่ในเวลาเพียง 2 ปีหลังจากนั้น Fernandez กลับต้องหายตัวไปอย่างลึกลับ…
และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของคดีปริศนา คดีฆาตกรรมของ Malika de Fernandez
แน่นอนว่าหลังจากที่ Fernandez หายตัวไปเป็นเวลานาน Reyn-Bardt ย่อมตกเป็นผู้ต้องสงสัยหมายเลขหนึ่งของคดีนี้ไปได้ไม่ยาก เพราะไม่เพียงแต่ทั้งคู่จะแต่งงานกันทั้งที่รู้จักกันไม่นานเท่านั้น
แต่ชีวิตรักของทั้งสองยังถือว่าไม่ค่อยดีนัก พวกเขาต้องแยกกันอยู่หลังแต่งงานได้ไม่กี่เดือนดีอีก
อย่างไรก็ตามแม้ว่าตำรวจจะตามหาตัว (หรือศพ) ของ Fernandez ในสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับ Reyn-Bardt ทุกแห่ง ซึ่งรวมไปถึงการลงทุนขุดสวนหลังบ้านของเขา
พวกเขาก็ไม่สามารถพบร่องรอยของหญิงที่หายไป หรือแม้แต่หลักฐานที่บ่งชี้ว่า Reyn-Bardt มีการกระทำผิดใดๆ อยู่ดี ทำให้คดีความของ Fernandez กลายเป็นอะไรที่ไขไม่ออกอยู่นานกว่า 2 ทศวรรษ
แต่แล้ววันที่ 13 พฤษภาคม 1983 สถานการณ์ของคดีนี้ก็เปลี่ยนไป เมื่อคนงาน 2 ราย ค้นพบซากส่วนศีรษะของมนุษย์ใน “กระพังพีต” (Peat bogs)
พื้นที่ดินโคลนซึ่งเป็นที่สะสมของซากพืชโบราณไม่ไกลจากบ้านของ Reyn-Bardt นัก
เมื่อทางตำรวจนำเรื่องศีรษะนี้ไปสอบปากคำกับ Reyn-Bardt เขาก็สารภาพในเวลาต่อมาว่าตนนั้น เป็นคนสังหาร และแยกชิ้นส่วนศพมาฝังไว้ที่กระพังเอง หลังจากที่เขาพยายามเผาร่างของเธอทิ้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก
“มันเป็นเวลานานมาก จนผมคิดว่าผมจะไม่มีวันความแตกแล้วแท้ๆ” Reyn-Bardt กล่าวกับตำรวจ
สิ่งที่ Reyn-Bardt ไม่ได้รู้เลยในเวลานั้น คือศีรษะที่ทางตำรวจพบนั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่ของ Fernandez อย่างที่หลายคนคิดแต่อย่างไร กลับกันเมื่อทางตำรวจส่ง ส่วนของศีรษะที่พบไปให้นักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบ
พวกเขาก็พบว่าจริงๆ แล้วศีรษะอันนี้มีอายุมากถึง 1,500-1,600 ปีแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่น่าจะเป็นของ Fernandez ไปได้เลย
แน่นอนว่าหลังจากรู้ความจริงข้อนี้ Reyn-Bardt ก็พยายามถอนคำสารภาพของตัวเองทันที
อย่างไรก็ตาม การกลับคำในตอนนั้นมันก็สายไปเสียแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องจำนนต่อคำตัดสินของคณะลูกขุนในเวลา 3 ชั่วโมงหลังจากการขึ้นศาล ปิดคดีที่กินเวลา 2 ทศวรรษนี้ไปในที่สุด
ถึงอย่างนั้น ปริศนาในคดีนี้ก็ใช่ว่าจะถูกไขออกไปจนหมดสิ้นแล้วจริงๆ แต่อย่างไร
เพราะจนแล้วจนรอดแม้ด้วยคำให้การของ Reyn-Bardt หรือเวลาที่ผ่านไปถึงในปัจจุบันนั้น..
“ร่างของ Fernandez ที่หายไปก็ยังคงไม่เคยถูกค้นพบอยู่ดี”
ที่มา iflscience
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น