เวลาเราจะไปเพิ่ม “รอยสัก” ให้กับร่างกายนั้น คนส่วนใหญ่ก็จะคิดแล้วคิดอีก พยายามหาลวดลายที่ตรงใจ ค้นคว้าหาข้อมูลช่างที่เชื่อถือได้ เพราะสุดท้ายแล้วเข้ารอยสักนี้มันจะอยู่ติดตัวเราไปตลอดชีวิต
จริงๆ แล้วมันก็มีวิธีการเลเซอร์ออกเหมือนกันแต่นอกจากจะแพงยิ่งกว่าค่าสักแล้ว มันก็ยังทิ้งร่องรอยแผลเอาไว้บนเนื้อตัวของเราอยู่ดี แถมได้ข่าวว่าเจ็บสุดยอดอีกด้วย
แต่ถึงกระนั้นแล้วความผิดพลาดหรือเสียใจทีหลังก็ยังคงเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปกติ หลายคนก็หาทางสักทับรอยเก่าลงไปเลย แต่ก็ยังมีอีกส่วนที่หาทางลบมันออกไปให้ได้…
ชายหนุ่มไม่ทราบชื่อคนหนึ่งจากประเทศอาร์เจนตินาก็มีรอยสักอยู่ที่แขนของเขาเหมือนกัน และเขาเพิ่งจะไปสักมาได้เพียงแค่อาทิตย์เดียวก่อนที่คิดจะลบมันออกไป
เรื่องของเรื่องคือเขาไม่ได้ไม่ถูกใจในรอยสักหรอก แต่เขาเกิดตัดสินใจได้ว่าเขาอยากจะสมัครเข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสนามบิน ซึ่งในหลายๆ ประเทศและอาชีพ คนที่มีรอยสักมักจะถูกคัดออกไปโดยปริยาย
แม้ในเว็บไซต์ของทางตำรวจสนามบินจะไม่ได้ระบุไว้ว่าห้ามผู้สมัครมีรอยสักในจุดที่สังเกตเห็นง่าย แต่พ่อหนุ่มคนนี้ก็ไม่อยากจะเสี่ยงพลาดการได้ประกอบอาชีพที่อยากจะทำนี้หรอก
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2017 ในตอนนั้นเขาอายุได้ 19 ปี และเขาก็รู้ดีด้วยว่าการลบด้วยเลเซอร์นั้นมีราคาแพงและหลงเหลือรอยสีขาวๆ เอาไว้ ซึ่งเขาไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น
หลังจากพยายามค้นคว้าทางยูทูบอยู่พักหนึ่งในที่สุดนายคนนี้ก็ได้ข้อสรุป (กับตัวเอง) ว่าเขาจะลองใช้ “ที่ขูดชีส” ดู หลังจากลงมือ “ขูด” ลงกับแขนตัวเองจริงๆ แล้วเขาเล่าว่า มันโคตรเจ็บ แถมเลือดก็ไหลเต็มไปหมด
สุดท้ายตัวเขาก็ไปลงเอยด้วยการต้องไปรักษาแผลที่โรงพยาบาล พร้อมกับโดนทั้งครอบครัวด่าอีก 1 ยก แต่ ณ จุดนั้นที่เขาได้ลงมือทำไปแล้วมันก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้วล่ะ
ซึ่งตัวเขาเองก็มาคิดทีหลังว่ามันเป็นวิธีที่ไม่ควรทำเอาซะเลย แต่อย่างน้อยเขาก็รู้สึกดีที่รอยสักบนแขนมันหายไปหมดแล้วจริงๆ
หากใครที่คิดจะทำตาม ตัวพ่อหนุ่มคนนี้ได้บอกเอาไว้ว่า “ไม่แนะนำให้ทำ” เพราะเอาเข้าจริงๆ มันเป็นวิธีที่ไม่ปลอดภัยมากๆ มีโอกาสที่จะเป็นแผลเป็น บาดทะยัก หรือติดเชื้อจนถึงขั้นเสียแขนหรือเสียชีวิตเอาได้นะจ๊ะ
หากใครอยากลบรอยสักควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด อย่าคิดลองลบด้วยตัวเองที่บ้านเป็นอันขาด
ส่วนพ่อหนุ่มคนนี้ซึ่งปัจจุบันอายุ 21 ปี ก็เปลี่ยนใจไม่สมัครตำรวจประจำสนามบินแล้วล่ะ (อ้าว!?) โดยเจ้าตัวบอกว่าเป็นเพราะปัญหาส่วนตัวในเรื่องอื่นๆ ไม่ใช่เพราะรอยสักแต่อย่างใด
เรียบเรียงโดย #เหมียวม่วง
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น