นี่คือผลงานวิจัยในประเทศสเปน ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพันธุกรรมกับสติปัญญาของเด็ก ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ค่อนข้างมีความน่าสนใจอย่างมาก
งานวิจัยดังกล่าวพบว่า “สติปัญญาคือสิ่งที่เราได้รับสืบทอดมาจากคนเป็นแม่” โดยระบุว่า 40-60% ของระดับสติปัญญาในเด็ก เป็นผลมาจากพันธุกรรมที่พวกเขาได้รับมาจากมารดา
Robert Lehrke หนึ่งในนักวิจัย กล่าวว่ายีนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของสติปัญญานั้นจะพบได้มากในโครโมโซม X ที่มาจากแม่ เพราะฉะนั้นหากเด็กได้รับยีนในส่วนนี้เยอะ ก็จะส่งผลต่อระดับสติปัญญาของพวกเขา
นักวิจัยกล่าวว่า เด็กแรกเกิดที่มียีนของทางฝั่งแม่เป็นหลัก พวกเขาจะมีลักษณะศีรษะที่ใหญ่และร่างกายที่เล็ก แต่ถ้าเด็กแรกเกิดมียีนของทางฝั่งพ่อเป็นหลัก พวกเขาก็จะมีศีรษะที่เล็กแต่ร่างกายใหญ่
ในหลายๆ การศึกษายังพบด้วยว่า แม่ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะส่งผลต่อการพัฒนาระดับสติปัญญาของเด็ก โดยนอกจากเรื่องของพันธุกรรมแล้ว ยังขึ้นอยู่กับเรื่องของความสัมพันธ์ด้วย
กล่าวคือ ถ้าแม่ยิ่งสนิทกับลูกมากเท่าไหร่ เด็กก็จะยิ่งสามารถใช้สติปัญญาจัดการกับปัญหายากๆ รอบตัวได้อย่างเด็ดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น ลดความวิตกหรือความไม่พอใจลง
ถึงอย่างนั้น นักวิจัยก็ย้ำว่าสติปัญญาไม่ใช่สิ่งที่เราได้รับจากแม่มาเต็ม 100% ทั้งนี้ก็ยังขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อม บุคลิกภาพส่วนบุคคล รวมไปถึงสิ่งที่จะเข้ามากระตุ้นเด็กแต่ละคนที่แตกต่างกันไปด้วย
ส่วนทางฝั่งคุณพ่อก็อย่าเพิ่งน้อยใจไป เพราะทางนักวิจัยพบว่า ยีนที่เด็กจะได้รับจากคนเป็นพ่อนั้นคือยีนที่มีความเกี่ยวข้องกับการเอาชีวิตรอด
กล่าวคือ ยีนจากคนเป็นพ่อถือว่ามีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับแรงขับที่จำเป็น เช่น ความหิว หรือความต้องการทางเพศ แถมยังมีผลต่อการเรียนรู้เข้าใจต่อสังคมโดยรอบ
นักวิจัยกล่าวว่า หากเด็กมียีนของพ่อเป็นหลัก พวกเขาก็จะมีทักษะเอาชีวิตรอดในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงในทุกวันได้เป็นอย่างดี
ท้ายที่สุดแล้ว นักวิจัยอธิบายว่า สติปัญญาที่เด็กได้รับสืบทอดมาจากมารดานั้นก็จะมีผลเพียงแค่ในช่วงแรกๆ ของชีวิต แต่หลังจากนั้น ปัจจัยอื่นที่เข้ามาถือเป็นส่วนสำคัญต่อการพัฒนาในด้านนี้
เพราะฉะนั้นแล้ว เราจึงไม่ควรที่จะหยุดการเรียนรู้ ฝึกที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ เพื่อให้ระบบทางด้านสติปัญญาได้ทำงานอย่างสม่ำเสมอ พัฒนาและสร้างความมั่นคงให้กับระดับสติปัญญาของเราเอาไว้
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ที่มา: Rincón de la Psicología , Brightside
Advertisement
0 Comments