ในช่วงเวลาที่โลกร้อนขึ้นทุกวันอย่างในปัจจุบัน เราปฏิเสธกันไม่ได้เลยว่าหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากภาวะโลกร้อน ก็คงจะไม่พ้นธารน้ำแข็งของประเทศไอซ์แลนด์เป็นแน่
นั่นเพราะจากที่ในอดีตที่แห่งนี้จะเคยมีธารน้ำแข็งชื่อ Okjökull (หรือเรียกย่อๆ ว่า Ok) ซึ่งแผ่ความกว้างถึง 38 ตารางกิโลเมตร ในปัจจุบันธารน้ำแข็งแห่งนี้ กลับเหลือความกว้างเพียงแค่ไม่ถึง 1 ตารางกิโลเมตร จนสูญเสียสถานะธารน้ำแข็งไป ตั้งแต่ในปี 2014
ดังนั้น เพื่อที่จะย้ำเตือนถึงสิ่งที่เราต้องเสียไปเพราะสภาวะโลกร้อน ภายในเดือนสิงหาคมนี้เอง ทีมนักสำรวจและนักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยไรซ์แห่งเมืองฮูสตัน ในรัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา จึงได้มีกำหนดการที่จะร่วมมือกับสมาคมนักเดินทางในไอซ์แลนด์เพื่อ “จัดงานศพ” ให้กับธารน้ำแข็ง Ok
โดยในกิจกรรมครั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยมีเป้าหมายหลักอยู่ที่การนำแผ่นป้ายอนุสรณ์รำลึกไปติดตั้งไว้ในพื้นที่ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของธารน้ำแข็ง Ok ซึ่งป้ายดังกล่าวนั้น มีการระบุข้อความถึงผู้อ่านในอนาคตไว้ว่า
“จดหมายถึงอนาคต
Ok คือธารน้ำแข็งของประเทศไอซ์แลนด์ชิ้นแรกที่สูญเสียสถานะธารน้ำแข็ง ซึ่งภายใน 200 ปี ธารน้ำแข็งทั้งหมดที่เหลืออยู่ของพวกเรา ก็ถูกคาดการว่าจะเสียสถานะตามไปเช่นกัน ดังนั้นป้ายอนุสรณ์ชิ้นนี้จึงถูกนำมาติดตั้งเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าเราทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำเพื่อแก้ไขมันเป็นอย่างดี
แต่เรื่องที่ว่าเรานั้นได้ทำมันลงไปจริงๆ หรือไม่นั้น คงมีแต่คุณเท่านั้นที่รู้
สิงหาคม 2562
415 ppm CO2″
ข้อความที่สะท้อนอะไรหลายๆ อย่างไว้อย่างเจ็บปวดนี้ถูกเขียนขึ้นโดยคุณ Andri Snær Magnason นักวิจัยและนักเขียนจากมหาวิทยาลัยไรซ์
โดยที่ข้อความที่ว่า “415 ppm CO2” ตอนท้ายนั้น สื่อถึงปริมาณความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลโดยตรงกับภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน และเป็นสิ่งที่เราต้องลดมันลงให้ได้ หากเราต้องการจะแก้ไขปัญหาโลกร้อนกัน
ตัวเลขที่ออกมานี้นับว่าสูงมากอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะในประวัติศาสตร์โลกเอง ครั้งสุดท้ายที่โลกมีปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์สูงขนาดนี้มันก็เมื่อราวๆ 3 ล้านปีก่อนเลย ซึ่งในเวลานั้นโลกเรามีระดับน้ำทะเลสูงกว่าปัจจุบันถึง 15-25 เมตรเลย
ทั้งนี้เอง แผ่นป้ายอนุสรณ์ชิ้นนี้นั้นนับว่าเป็นแผ่นป้ายรำลึกถึงธารน้ำแข็งชิ้นแรก (และน่าจะชิ้นเดียว) ของโลกในปัจจุบัน ซึ่งมันคงจะเป็นการดีหากแผ่นป้ายชิ้นนี้นั้น กลายเป็นป้ายรำลึกชิ้นสุดท้ายของธารน้ำแข็งไปด้วยในอนาคต
ที่มา amusingplanet, sciencealert และ theguardian
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น