ท่านผู้อ่านเคยได้ยินเรื่องราวในทำนองว่าบุญหล่นทับกันบ้างรึเปล่า? เรื่องของการที่อยู่เฉยๆ ตามปกติแล้วก็ดันมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นโดยที่มันตกลงมาจากฟากฟ้าแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวกันเลย
กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นกับชายวัย 33 ปี จากจังหวัดสุมาตราเหนือ ประเทศอินโดนีเซีย จากการค้นพบว่ามีเศษก้อนหินอุกกาบาตตกลงใส่หลังคาบ้านแบบทะลุทะลวงลงมา ในช่วงบ่ายวันหนึ่ง
.
เจอไอเท็มขุมทรัพย์
ก้อนอุกกาบาตที่ตกลงมานั้น มีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.1 กิโลกรัม นอกเหนือจากนั้นแล้วมูลค่าของมันก็ตีได้สูงถึง 1.85 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราวๆ 56 ล้านบาท!
นาย Josua Hutagalung ผู้ประกอบอาชีพเป็นคนทำโลงศพ ช่วงที่มีหินอุกกาบาตตกลงมาในวันที่ 1 สิงหาคม 2020 (วันหวยไทยออกพอดีอีกแหนะ) ตอนนั้นเขาบอกว่ากำลังทำงานอยู่เพลินๆ
จากการที่มันตกลงมานั้น ส่งผลทำให้ทะลุหลังคาบ้าน และจมลงไปในพื้นดินลึกอีกประมาณ 15 เซนติเมตร
ตรวจสอบคุณสมบัติไอเท็ม
เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น Kompas ระบุว่าตอนที่เข้าไปขุดมันออกมาจากดิน หินอุกกาบาตยังร้อนๆ อุ่นๆ อยู่เลย
ทั้งนี้มีการตรวจสอบและคาดการณ์อายุของมันอยู่ที่ประมาณ 4.5 พันล้านปีแล้ว
อ้างอิงจากสถาบันจันทรคติและดาวเคราะห์ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ได้จัดประเภทของมันให้เป็น CM1/2 carbonaceous Chondrite ซึ่งเป็นกลุ่มอุกกาบาตที่หาได้ยากสุดๆ
และด้วยความหายากของมันนี่แหละ จึงมีการตีราคาต่อกรัมอยู่ที่ 857 ดอลลาร์สหรัฐ (26,000 บาท) สำหรับก้อนอุกกาบาตที่เจอนั้นก็ตีราคาน้ำหนักรวม 2.1 กิโลกรัมอยู่ที่ 1.85 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (56 ล้านบาท)
ปิดการขาย!
แม้ว่าลูกชายของเขาจะบอกแล้วว่าพ่ออย่าขายอุกกาบาตก้อนนี้นะ
แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนเจอมันคนแรก บวกกับความเชื่อที่ว่าเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความโชคดี มีลาภมีทรัพย์ ต่อครอบครัวและหมู่บ้าน เขาจึงตัดสินใจขายเศษที่มันแตกออกจากก้อนใหญ่ไปก่อนในปริมาณ 94.2 กรัม
จนถึงช่วงกลางเดือนกันยายน เขาก็ตัดสินใจขายทั้งก้อนที่เหลือให้กับพ่อค้า 3 ราย ที่จะนำไปขายต่อให้กับนักเก็บสะสมอีกทอดหนึ่ง
.
จากเงินที่ได้มานั้น เขาก็หวังว่าจะนำไปใช้สร้างประโยชน์ สร้างโบสถ์ให้กับชุมชน เพราะเขามีความต้องการอยากจะได้ลูกสาว หวังว่ามันคือสัญญาณที่ดีที่จะทำให้เขาโชคดีมากพอตามที่หวังเอาไว้ (เขามีลูก 3 คนแล้วนะ)
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ที่มา: kompas, tribunnews, thesun, dailymail
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น