สรุปดราม่าล่าสุดในโลกออนไลน์ จนติดเทรนด์อันดับต้นๆ ถึง 3 เรื่อง ทั้งแฮชแท็ก #ชานมข้นกว่าเลือด #MilkTeaAlliance และ #StopMekongDam
หลายคนอาจจะงงว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมชาวเน็ตดราม่าเรื่องประเทศจีนรัวๆ เลย แคทดั๊มบ์ขอสรุปให้ได้อ่านกันครับ..
1. เริ่มจากการด่าทอกันของแฟนคลับดารา
ย้อนกลับไปไม่กี่วันก่อน จำดราม่าที่เกิดขึ้นกับดาราในกระแสตอนนี้อย่าง “น้องไบร์ท” กันได้รึเปล่าครับ!?
ถ้าใครตามไม่ทัน ย้อนกลับไปอ่านตรงนี้: สรุปดราม่าแฮชแท็ก #nnevvy ที่ทำให้เห็นเอเนอร์จี้ของ “คนไทยขี้ปั่น” สู้กับ “แม่จีนจอมด่า”
คือทั้งชาวเน็ตจีนและไทยก็ฟาดกันไปมา เป็นที่สนุกสนานของชาวเน็ตหลายคน
แต่.. ในดราม่าที่หลายคนสนุกสนานเฮฮานั้น มีสิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้เลยเพราะเป็นประเด็นสำคัญในเรื่องถัดๆ ไป นั่นก็คือการที่บางส่วนบอกว่า “ไต้หวัน” และ “ฮ่องกง” เป็นประเทศ
ทำไมเรื่องนี้จึงเป็นประเด็น!?
เพราะนั่นขัดกับหลักการ “จีนเดียว” ซึ่งอธิบายง่ายๆ ก็คือจีนแผ่นดินใหญ่หรือ “สาธารณรัฐประชาชนจีน” มองว่าทั้งไต้หวันและฮ่องกงคือส่วนหนึ่งของจีน จะนับเป็นประเทศไม่ได้
ตัวอย่างของดราม่ารอบที่แล้ว
.
2. เมื่อ “สถานทูตจีน” ลงมาร่วมด้วย
ล่าสุดที่ทำให้ประเด็นนี้กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง เกิดขึ้นหลังจากทางเพจเฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยได้ทำการโพสต์ข้อความแสดงจุดยืนเรื่องจีนเดียวขึ้นมา
เนื้อหาโดยคร่าวๆ ก็คือแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ
ส่วนแรก พูดถึงหลักการจีนเดียว โดยระบุว่าเป็นหลักการที่ทั้งรัฐบาลจีนและรัฐบาลไทย ยึดถือมาอย่างยาวนาน
ส่วนที่สองนั้นมีการพูดต่อว่าคนบนโลกออนไลน์ ว่าพยายามวางแผนมุ่งร้าย ยุแยงเพื่อทำให้ผู้คนผิดใจกัน
ส่วนที่สามนั้นจึงพูดถึงความเป็นพี่น้องของไทยและจีน ในการร่วมรับมือผ่านพ้นวิกฤติไวรัสโคโรน่าไปด้วยกัน
สำหรับใครที่อยากอ่านโพสต์เต็มๆ
https://www.facebook.com/ChineseEmbassyinBangkok/posts/2942654555781330?__tn__=H-R
3. เกิดกระแสต่อต้านบนโลกออนไลน์
หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ (14 เมษายน 2563) ก็มีทั้งผู้สนับสนุนเข้าไปคอมเมนต์ถกเถียงกันอย่างหนาแน่นกว่า 15,000 คอมเมนต์
ข้ามมาที่โลกของทวิตเตอร์ จุดก่อกำเนิดดราม่าครั้งแรก ชาวเน็ตบนโลกทวิตเตอร์ที่ต่อต้านโพสต์ดังกล่าว เริ่มสร้างแฮชแท็ก #ชานมข้นกว่าเลือด #MilkTeaAlliance จนขึ้นอันดับ 1 และ 2 ของประเทศ
ทำไมต้องเป็นชานม!?
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องใช้เครื่องดื่ม “ชา” มาเกี่ยวข้อง นั่นก็เพราะกระแสของชานมไข่มุก ได้รับความนิยมอย่างสูงในไทยเรา และมีต้นกำเนิดมาจากไต้หวัน
ในขณะที่ฮ่องกงนอกจากจะนิยมชานมไข่มุกแล้ว การดื่มชายังเป็นการแสดงถึงวัฒนธรรมของอังกฤษ ที่เคยครอบครองฮ่องกงก่อนจะส่งมอบคืน
เพราะฉะนั้น ที่ชาวเน็ตใช้ “ชา” ก็เพื่อแสดงความเชื่อมโยงของ 3 ประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้องในดราม่านี้นั่นเอง
ซึ่งเท่าที่อ่านดู หลายคนมองว่าการที่สถานทูตโพสต์ลักษณะดังกล่าว เหมือนกับการบีบบังคับให้ทางชาวเน็ตและรัฐบาลไทยต้องทำการขอโทษทางจีน จากการละเมิดหลักการจีนเดียว
นอกจากนั้น บางคนยังมองว่าดราม่านี้ชาวเน็ตฝั่งจีนเป็นผู้เริ่มก่อน โดยการด่าเสียๆ หายๆ ถึงทางรัฐบาลและสถาบันเบื้องสูง
แต่โพสต์ของสถานทูตเหมือนจะโบ้ยให้ชาวเน็ตไทยกลายเป็นผู้ปลุกปั่นเสียเอง
ตัวอย่างโพสต์ที่น่าสนใจในแฮชแท็กนี้
รวมพลังชานมไข่มุก
https://twitter.com/_MarchInTheRain/status/1250064487283073026
หลายคนมองว่าเพจสถานทูตจีน น่าจะออกมาแถลงและแสดงความคิดเห็นได้ดีกว่านี้
https://twitter.com/findingjinjin/status/1250082843075563521
ขณะที่บางคนก็มองคำว่า “พี่น้อง” แท้จริงแล้วในทางปฏิบัติ อาจจะไม่ใช่พี่น้องจริงๆ ก็เป็นได้!?
"The Siblings"
What China claims that we are VS What we really are.#ชานมข้นกว่าเลือด #MilkTeaAlliance pic.twitter.com/norZVQgj2A— 🍎𝐅𝐚𝐢𝐫𝐞𝐬𝐭 𝐎𝐟 𝐓𝐡𝐞𝐦 𝐀𝐥𝐥🍎 (@13Decimotercera) April 14, 2020
4. ดึงแม่น้ำโขงเข้ามาเกี่ยว
หลังจากนั้น มีแฮชแท็ก #StopMekongDam ผุดขึ้นมา ต่อเนื่องจากการประชดประชันคำกล่าวที่ว่า “ไทย-จีน คือพี่น้อง” แต่ในความเป็นจริงแม่น้ำโขงกลับไม่มีน้ำใช้งาน เพราะการสร้างเขื่อนในประเทศจีนนั่นเอง
หลายคนออกมาต่อต้านการสร้างเขื่อนและกักเก็บน้ำในช่วงต้นน้ำ ซึ่งไหลผ่านประเทศจีน ทำให้กลุ่มประเทศอาเซียนเช่น ไทย ลาว กัมพูชา ไม่มีน้ำใช้เพียงพอเหมือนอย่างเคย
ชาวเน็ตคนหนึ่งบอกว่า จีนบอกว่าเราคือครอบครัวเดียวกัน แต่ครอบครัวทำกันแบบนี้หรือ!?
China says ‘China and Thai as one family.
Well, how come FAMILY did to your sibling as this?
Release the water! #MilkTeaAlliance #ชานมข้นกว่าเลือด
https://t.co/sXIbSH83yv— แม่หนูเหวิ่น (@lovekasuma) April 14, 2020
สำหรับคนนี้มองว่าเราต้องพยายามหยุดเขื่อนแม่น้ำโขง มิฉะนั้นคนปลายน้ำจะตายกันหมดเพราะไม่มีน้ำใช้
https://twitter.com/nnevvy_19/status/1250202775033499648
โพสต์ที่แสดงให้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของปลายน้ำที่เทียบกับต้นน้ำไม่ได้ หลังจากมีการสร้างเขื่อนจำนวนมาก
ไหนๆเราก็เปิดศึกกับนางมาขนาดนี้แล้วอยากให้ทุกคนดัน #StopMekongDam ด้วย สร้างเขื่อนด้วยความเห็นแก่ตัวเพราะน้ำเป็นทรัพยากรของทุกประเทศไม่ใช่ของจีนประเทศเดียว #ชานมข้นกว่าเลือด pic.twitter.com/0B86H0YExa
— สหายผู้กองรีจองฮยอก (@I17NT1) April 14, 2020
ล่าสุดทั้ง 3 แฮชแท็ก มีการพูดถึงรวมกว่า 800,000 ครั้ง และกำลังพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
ใครที่สนใจเกาะติดประเด็นเหล่านี้ต่อ ก็ตามไปที่โลกทวิตเตอร์ได้เลยนะครับ คิดว่าแฮชแท็กเหล่านี้คงถูกพูดถึงรัวๆ จนไม่ต้องเปิดวาร์ปแล้วล่ะเนอะ!!
หวังว่าการสรุปครั้งนี้ จะทำให้หลายๆ คนเข้าใจสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างร้อนแรงตอนนี้มากยิ่งขึ้นนะครับ ทั้งนี้ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาโจมตีหรือละเมิดหลักการจีนเดียว ไม่ได้มีการจาบจ้วงรัฐบาลหรือสถาบันใดๆ ของไทย
เป็นการเรียบเรียงข่าวเพื่อความกระจ่างแก่ผู้อ่านเท่านั้น ขอบคุณที่ติดตามกันครับ
เรียบเรียง #ประธานเหมียว
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น