ในฐานะที่เราๆ ชาวไทยต่างรู้จักและคุ้นเคยตัวอักษรภาษาไทยกันอย่างดี และได้รับรู้รสชาติของการเรียนภาษาต่างชาติกันมาแล้วว่ามันยากขนาดไหน แต่หากมองย้อนกลับมาที่ภาษาไทยสำหรับมุมมองต่างชาติมันก็ยากเหมือนกันนะ 555
ตัวอย่างจากทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นกับความงงในตัวอักษรไทย สืบเนื่องจากฟอนต์ไทยในยุคสมัยใหม่ที่ปรับเปลี่ยนให้มีความ ‘มินิมอล’ ตัดหัวตัวอักษรออกไป จึงบังเกิดเป็นความ ‘งง’ และสับสันว่ามันอ่านเหมือนกันจริงดิ?
タイ語がある程度読めるようになった人の次の関門は、日常的に使われるデザインフォントだと思う。
ウソみたいだろ?左と右は同じ文字だなんだぜ。 pic.twitter.com/ZCRTT2TuWq
— AZ🇹🇭 (@smilekit) September 27, 2020
จากข้อความของ @smilekit ระบุไว้ว่า ‘ฉันคิดว่าอุปสรรคต่อไปสำหรับผู้ที่อ่านภาษาไทยได้ในระดับหนึ่งก็คือฟอนต์ที่ออกแบบนำมาใช้ในชีวิตประจำวั มันดูเหมือนโกหกใช่มั้ยล่ะ? เพราะด้านซ้ายและด้านขวาคือตัวอักษรแบบเดียวกัน’
くるっと丸を書く部分を省略されるのが特に厳しく。日本語だと「め」「ぬ」「れ」「ね」辺りを丸なしで判別しろっていうくらいの難しさですよね。
— AZ🇹🇭 (@smilekit) September 27, 2020
ปัญหาของชาวญี่ปุ่นที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงอักษรไทยชุดนี้ นั่นก็คือการที่พวกเขาเรียนรู้ตัวอักษรไทยแบบมีหัวมาโดยตลอด และมีการหยิบตัวอักษรญี่ปุ่นมาเปรียบเทียบอย่าง 「め」「ぬ」「れ」「ね」ซึ่งหากไม่มีหัวก็จะทำให้แยกแยะตัวอักษรได้ลำบากนั่นเอง
นอกจากตัวฟอนต์ด้านบนที่เป็นปัญหาแล้ว ตัวอักษรที่อยู่บนผลิตภัณฑ์สินค้าต่างๆ ก็เป็นปัญหาเหมือนกัน 5555
これ洗濯洗剤なんだけど、タイ語が読めない頃「USA」って読んでた。じっさいはบรีส(ブリース)って読みます。どんな色鮮やかな新しいシャツも、愛着の古着ふうに洗い晒してくれる優れモノだ! 旅行時など携帯に便利な小袋は5バーツから。 pic.twitter.com/4pOtAmjE
— kochasaeng – คชแสง (@kochasaeng) February 18, 2012
ตัวอย่างจากคุณคชแสงที่ระบุว่าน้ำยาซักผ้ายี่ห้อ ‘บรีส’ หากอ่านไทยไม่ออกจะอ่านเป็น USA (บรส) แถมชมด้วยนะว่ายี่ห้อนี่ดีมีขนาดพกพา 5 บาทด้วย (ไม่ได้ค่าโฆษณาเด้อ)
แต่ในมุมต่างชาติแล้วตัวอักษรไทยมีหัวคือสวยงามและแปลกตาในเวลาเดียวกัน
自分は丸付きフォントこそがタイ文字独特の美しさだと思うんですけどね。
— AZ🇹🇭 (@smilekit) September 28, 2020
อย่างไรก็ดี ปัญหาเช่นนี้ก็คือปัญหาสำหรับชาวต่างชาติที่พยายามเรียนรู้ภาษาไทย เช่นเดียวกันกับปัญหาของชาวต่างชาติที่พยายามเรียนภาษาญี่ปุ่นกับตัวอักษรคันจิอีกมหาศาลที่ต้องจำกันไป ฮร่าาาา
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ที่มา: @smilekit, @kochasaeng
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น