CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

เปิดพิธีกรรม “มิซุโกะ คุโย” การไว้ทุกข์ของพ่อแม่ชาวญี่ปุ่น ผู้สูญเสียลูกไปก่อนคลอด

เคยได้ยินเรื่องราวของพิธีกรรมชื่อ “มิซุโกะ คุโย” (水子供養) กันมาก่อนไหม นี่คือพิธีกรรมทางศาสนาของคนญี่ปุ่น ที่จัดทำขึ้นเพื่อพ่อแม่ที่ต้องสูญเสียลูกไปก่อนคลอด

 

 

พิธีกรรมนี้เกิดขึ้นมา ตามความเชื่อทางศาสนาของคนญี่ปุ่นโบราณที่ว่า เด็กที่เสียชีวิตไปก่อนจะเกิด จะไม่สามารถเดินทางไปเกิดใหม่หรือโลกหลังความตายได้

เนื่องจากไม่มีโอกาสได้ทำความดี กลับกันพวกเขาจะต้องไปติดอยู่ในสถานที่ที่มีชื่อว่า “ไซโนะคาวาระ” เรียงหินริมแม่น้ำไปเรื่อยๆ เพื่อชดเชยความเจ็บปวดที่พวกเขาทำให้พ่อแม่

 

 

ในที่แห่งนั้น “จิโซ” ผู้พิทักษ์แห่งผืนดินในความเชื่อของคนโบราณ จะคอยเป็นผู้ดูแลเด็กๆ จากปีศาจและสิ่งชั่วร้าย ในขณะที่เมื่อมีโอกาสก็จะช่วยเด็กๆ ในการเดินทางไปสุคติด้วยการแอบซ่อนเด็กๆ ไว้ในผ้าคลุม (วิธีการช่วยเหลือเด็กอาจต่างกันไปแล้วแต่ตำนาน)

ด้วยเหตุนี้เองในยามเช้า พ่อแม่ที่เพิ่งเสียลูกไปจากการแท้งไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ จะทำการบูชาจิโซ ด้วยการแต่งกายรูปปั้นจิโซที่พบได้ทั่วไปด้วยผ้าคลุมหรือฮู้ดสีแดง

ก่อนที่จะถวายขนมหรือของเล่นทิ้งเอาไว้ข้างๆ และเรียงหินไว้ข้างๆ ในบางครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าลูกของพวกเขาจะสามารถเดินทางไปสู่สุคติได้

 

 

จริงอยู่ว่ามิซุโกะ คุโย จะเป็นพิธีกรรมเก่าแก่ร่วมพันๆ ปีของญี่ปุ่น แต่พิธีกรรมนี้กลับเริ่มพบเห็นได้บ่อยในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองเท่านั้น

เนื่องจากในช่วง 6 ปีหลังสงครามจบ คนในประเทศซึ่งในขณะนั้น ยังไม่มีระบบการรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ดี จึงมักจำกัดจำนวนคนในครอบครัวด้วยวิธีการอันหลากหลาย รวมไปถึง “การทำแท้ง”

แน่นอนว่านี่เป็นการตัดสินใจเช่นนี้ย่อมนับเป็นการตัดสินใจที่เจ็บปวดและนำมาซึ่งความรู้สึกผิดร้ายแรง ดังนั้นพิธีกรรมอย่างมิซุโกะ คุโยจึงถูกปฏิบัติบ่อยขึ้น ก่อนที่จะเริ่มกระจายไปทางตะวันตกอย่างน่าประหลาดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

 

 

มันเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่า การที่คนที่ทำแท้งมาทำพิธีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ “ถูกต้อง” หรือไม่ เพราะในหลายๆ ครั้งหัวข้อเหล่านี้ก็จำเป็นต้องใช้ปัจจัยหลายอย่างเพื่อประกอบการตัดสินใจ

ถึงอย่างนั้นก็ตาม เราก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า พิธีกรรมอย่าง มิซุโกะ คุโย ได้ให้ความช่วยเหลือในด้านจิตใจ แก่พ่อแม่หลายๆ คน ที่ต้องเจ็บปวดกับการสูญเสียลูกไปจริงๆ

 

ที่มา amusingplanet


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น