มักจะเห็นเป็นข่าวกันอยู่บ่อยครั้งในเรื่องยาเสพติดและวงการศาสนาพุทธในบ้านเรา ไม่พระก็เด็กวัดที่มักจะมีการครอบครองยาเสพติดเอาไว้เสพกันภาพในวัด
กรณีนี้ก็เกิดขึ้นอีกในวันที่ 28 มกราคม 2564 เว็บไซต์ข่าวสดรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.สตึก ได้รับแจ้งจากพระอธิการทองดี ณรเทโว อายุ 75 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านโคกเมือง ม.7 ต.สะแก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์
อยากให้เข้ามาตรวจสอบพระลูกวัดหลังจากที่มีพฤติกรรมผิดปกติ เกรงว่าจะยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย เมื่อเจ้าหน้าที่รับแจ้งจึงมอบหมายให้ พ.ต.ท.สามารถ หมายสม รองผู้กำกับ สภ.สตึก เข้าไปตรวจสอบนำกำลังพร้อมอุปกรณ์ตรวจสารเสพติดไปด้วย
เมื่อตรวจสอบกุฏิหลังหนึ่งก็พบกับพระธวัชชัย ของเลิศ อายุ 45 ปี เป็นพระลูกวัด นั่งเล่นอยู่บริเวณลานวัดจึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจปัสสาวะ พระธวัชชัยให้ความร่วมมือตรวจและพบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการวัดมาร่วมเป็นพยานตรวจสอบ ก่อนที่จะเข้าไปตรวจค้นภายในกุฏิว่าไม่ได้มีการนำสิ่งผิดกฎหมายใดที่จะเข้าไปกลั่นแกล้งหรือยัดสิ่งผิดกฎหมายให้กับพระธวัชชัย และไม่ได้พบยาเสพติดใดๆ
ทั้งนี้จากการสอบสวนพระธวัชชัย รับสารภาพว่าเสพยาจริง จึงนำตัวพระธวัชชัยไปสึกเนื่องจากผิดวินัยร้ายแรง และนำตัวไปสอบสวนขยายผลที่ สภ.สตึก ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเคยถูกจับคดีครอบครองยาบ้า 15 เม็ด หลังพ้นโทษจึงมาบวชเป็นพระเพื่อกลับตัวกลับใจ
แต่หลังจากที่มีโยมรายหนึ่งชื่อ นายไก่ อายุ 30 ปี ชาวบ้านแถวนั้นนำยาบ้ามาถวายพร้อมอุปกรณ์เสพยาถึงกุฏิ ตนไม่กล้ารับในตอนแรกเพราะกลัวอาบัติ
โยมไก่พยายามชักชวนจึงไม่อยากขัดศรัทธาโยมและเป็นคนขี้เกรงใจ จากนั้นจึงรับยาบ้าที่ถวายมาเสพ แต่ไม่ได้เสพทุกวัน จะเสพก็ต่อเมื่อรับถวาย และไม่ได้ติดยา
เจ้าอาวาสวัดกล่าวว่าพระรูปนี้มาจำวัดได้ 4 ปี ช่วงหลังมีพฤติกรรมผิดปกติ ไม่ออกบิณฑบาต แต่ชอบออกจากวัด กลับไม่เป็นเวลาและเก็บตัวอยู่แต่ในกุฏิ จึงเป็นเหตุให้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเกรงว่าจะทำเรื่องเสื่อมเสียศาสนา
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาพระธวัชชัยฐาน ‘เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1’
ที่มา: khaosod
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น