CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

หนุ่มไปบริจาคเลือด โกหกว่าไม่เคยมีเซ็กส์มาก่อน ตรวจทีหลังพบว่าติดเชื้อ HIV !!

การโกหกอาจไม่ใช่สิ่งที่ดี บางคนอาจบอกว่าบางครั้งมันก็มีความจำเป็นที่จะต้องโกหกออกไป แต่ในขณะเดียวกันการโกหกก็อาจกลายเป็นต้นเหตุของอันตรายร้ายแรงที่สามารถส่งผลกระทบไปยังผู้อื่นได้

เหตุการณ์ในลักษณะนั้นได้เกิดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ หลังจากที่ชายวัย 35 ปีคนหนึ่ง (ไม่ระบุชื่อ) ได้เข้ารับการบริจาคเลือด โดยอ้างว่าตนเองไม่เคยมีเซ็กส์มาก่อน ทว่าภายหลังกลับตรวจพบว่าเขาติดเชื้อ HIV

 

ภาพจาก The Packet

 

เรื่องราวดังกล่าวนั้นต้องย้อนกลับไปในวันที่ 30 กันยายน 2017 ในขณะนั้นเขาได้เดินทางไปบริจาคเป็นครั้งที่ 6 แล้ว ซึ่งทั้ง 5 ครั้งก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีการตรวจพบว่าเขาติดเชื้อใดๆ มาก่อนเลย

โดยในการบริจาคเลือดครั้งนั้น เขากรอกข้อมูลลงไปว่า “ตนเองไม่เคยมีกิจกรรมทางเพศกับผู้ชายคนอื่นมาก่อน” และบอกว่า “ไม่เคยมีกิจกรรมทางเพศกับใครก็ตามที่เพิ่งรู้จักได้ไม่เกิน 6 เดือน ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา”

ชายหนุ่มคนนี้ได้รับอนุมัติให้สามารถบริจาคเลือดได้ จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ผู้รับบริจาคได้ทำการตรวจสอบในภายหลัง และพบว่าเลือดที่เขาบริจาคมานั้นมีการติดเชื้อ HIV !!

 

ภาพจาก Health Europa

 

สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความตกใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก จำเป็นที่จะต้องพาตัวชายคนดังกล่าวกลับมาสอบสวนหาข้อเท็จจริง ว่าแท้จริงแล้วเขาได้รับเชื้อ HIV มาได้อย่างไรกัน

Jason Lee ผู้อำนวยการทางด้านกฎหมายของกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า…

“ระหว่างการสัมภาษณ์ เขายังคงพยายามยืนยันว่าไม่เคยมีเซ็กส์กับใครมาก่อนเลย และบอกว่าตนเองไม่ได้ทำกิจกรรมใดๆ ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV”

 

ภาพจาก 123RF

 

แต่จากการคาดคั้นอย่างสุดความสามารถของทางเจ้าหน้าที่ ทำให้ในที่สุดชายคนนี้ก็ยอมรับว่าตนเองเคยมีเซ็กส์กับผู้ชายคนอื่นมาก่อน

ชายวัย 35 ปีสารภาพว่าตนเองเคยมีเซ็กส์กับชายแรงงานต่างชาติที่เจอกันในที่สาธารณะเมื่อเดือนมิถุนายน 2017

เขายังบอกว่าเคยมีกิจกรรมทางเพศอีกหลายครั้งกับคนแปลกหน้าในประเทศฟิลิปปินส์ หรือแม้แต่มีเซ็กส์ในห้องน้ำห้างสรรพสินค้า เขาก็เคยมาแล้ว

 

ภาพจาก FreePik

 

ทางกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า การให้ข้อมูลปลอมในแบบสอบถามก่อนการบริจาคเลือดนั้นถือเป็นปัญหาที่ร้ายแรงอย่างมาก เพราะมันคือการส่งต่อเชื้อ HIV ให้แก่ผู้บริสุทธิ์คนอื่นๆ

เหตุการณ์ดังกล่าวจึงกลายเป็นคดีความที่ยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปี จนกระทั่งในวันที่ 2 ตุลาคม 2019 ชายคนนี้ก็ถูกตัดสินโทษจำคุก 4 เดือน และต้องเสียค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 221,000 บาท)

นอกจากนั้นทางกระทรวงสาธารณสุขก็ได้ออกมายืนยันว่า เลือดที่ได้รับบริจาคมาจากชายคนนี้นั้นได้ถูกทำลายไปในทันที หลังจากที่มีการตรวจพบเชื้อ HIV ไม่มีทางที่มันจะถูกถ่ายให้กับผู้รับคนอื่นๆ อย่างแน่นอน

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู

ที่มา: Vice , Mothership , Channel News Asia , World of Buzz


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น