CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

มาเฟียอิตาลี ข่มขู่ “ห้ามรถฉุกเฉินเปิดไซเรน” หลังลูกน้องมักเข้าใจผิด คิดว่าเป็นรถตำรวจ

เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะเคยแยกไม่ออกกันมาก่อน สำหรับลักษณะสัญญาณไฟและเสียงไซเรนของรถตำรวจ กับ รถฉุกเฉิน…

แต่ใครจะไปคิดล่ะว่า เรื่องที่ฟังดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร มันกลับกลายเป็นปัญหาสำคัญสำหรับแก๊งมาเฟียในอิตาลี จนถึงขั้นต้องออกมาข่มขู่ว่า “รถฉุกเฉินห้ามเปิดไซเรน” ?!

 

 

เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นในหลายแห่ง รวมถึงในเมืองนาโปลี ประเทศอิตาลี เมื่อเหล่าคนขับรถฉุกเฉินหรือรถพยาบาล พวกเขาถูกคุกคามอย่างหนักจากฝีมือของเหล่าสมาชิกแก๊งมาเฟียท้องถิ่น

และเหตุผลของการถูกคุกคาม ข่มขู่ ก็เป็นเพราะเสียงไซเรนของรถฉุกเฉินที่ทำให้สมาชิกแก๊งมาเฟียทั้งหลายพากันเข้าใจผิด จนเผลอคิดว่ามันคือเสียงไซเรนของรถตำรวจอยู่บ่อยๆ

 

เพราะอย่างนั้นถึงได้ออกมาขู่ ไม่ให้รถฉุกเฉินเปิดไซเรนอีก

 

นอกจากเหตุผลนั้นแล้ว รายงานยังระบุด้วยว่า อีกเหตุผลที่ทำให้เหล่ามาเฟียไม่พอใจในเสียงไซเรน ก็เพราะว่าบางทีมันไปรบกวนการค้าขายยาเสพติด จนทำให้ลูกค้าเข้าใจผิด หวาดระแวงจนหนีไปไม่กล้าซื้อ กระทบต่อธุรกิจองค์กร

คนขับรถฉุกเฉินรายหนึ่งยังได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เขาเคยขับรถเปิดไซเรนแล้วถูกชายติดอาวุธสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ตาม แล้วถูกทุบกระจกพร้อมกับตะโกนขู่ฆ่า จนต้องโทรหาตำรวจให้มาช่วยคุ้มกันระหว่างทาง

“ไม่เข้าใจเหรอว่ามึงไม่สามารถเปิดไซเรนที่นี่ได้? ปิดมันซะหรือจะให้กูยิงมึงแทน!” นี่คือคำข่มขู่ที่คนขับรถฉุกเฉินต้องเจอ

 

 

Manuel Ruggiero นายแพทย์ประจำห้องฉุกเฉินวัย 42 ปี กล่าวว่า เหล่าเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงกับเมืองนาโปลี ไม่ต่ำกว่า 2 แห่ง ถึงขั้นต้องห้ามไม่ให้รถฉุกเฉินเปิดสัญญาณไซเรน ตามคำข่มขู่ของกลุ่มมาเฟียติดอาวุธ

และนี่ก็ถือเป็นปัญหาเรื้อรังอย่างมากในหลายๆ แห่งทั่วทั้งอิตาลี แม้ในช่วงการระบาดของเชื้อโควิด-19 จะทำให้ปัญหานี้ซาลงไปบ้าง แต่ปัจจุบัน มันก็กลับมาเป็นปัญหาใหญ่อีกครั้งสำหรับบุคลากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ทางการหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างจริงจัง ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะเคยออกมาประกาศแล้วว่า พวกเขาตั้งใจที่จะต่อสู้กับอำนาจของกลุ่มมาเฟียทั้งหลายให้หมดไปจากประเทศก็ตาม

 

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู

ที่มา: DailyMail , OddityCentral


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น