ย้อนกลับไปในปี 1991 นักปีนเขา 2 คนได้เดินทางไปเอิตซทัลแอลป์ ยอดเขาที่ พรมแดนระหว่างประเทศออสเตรีย และประเทศอิตาลี และค้นพบมัมมี่ธรรมชาติที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์อย่างไม่น่าเชื่อของชายคนหนึ่ง ผู้มีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 5,300 ปีก่อน
มัมมี่ร่างนั้น ถูกค้นพบพร้อมๆ กับขดเชือกประหลาด และวัตถุโบราณที่ใช้ในการล่าสัตว์อีกจำนวนหนึ่ง ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะได้รับชื่อว่า “เอิตซี” (Ötzi) และกลายเป็นมัมมี่มีชื่อเสียงมากที่สุดอันหนึ่งของโลกในฐานะ มัมมี่ชาวยุโรปที่เก่าแก่ที่สุดในยุคทองแดงอย่างที่หลายๆ คนทราบกัน
และแล้วหลังจากที่มีการค้นพบตัวมัมมี่ไปกว่า 2 ทศวรรษ เมื่อล่าสุดนี้เอง ทีมนักวิทยาศาสตร์ของสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ประสบความสำเร็จในการตรวจสอบหาที่มาของขดเชือกที่ถูกพบพร้อมๆ กับเอิตซีเข้าจนได้ โดยในเวลานี้ พวกเขาสามารถยืนยันได้แล้วว่า เชือกเส้นนี้ ในอดีตเคยถูกใช้เป็นสายธนูมาก่อนจริงๆ
อ้างอิงจากการรายการค้นพบที่ออกมา เชือกที่ถูกพบนี้ทำขึ้นจากสายเอ็นกล้ามเนื้อขาของสัตว์ ซึงถูกแปรรูปมาเป็นเชือก โดยมันถูกเก็บไว้ในแล่งเก็บลูกศรของเอิตซีในตอนที่มัมมี่ถูกค้นพบ และมีความยาวอยู่ที่ราวๆ 180 เซนติเมตร
ความยาวที่ออกมานี้นับว่าใกล้เคียงกับความยาวของคันธนูของเอิตซีมาก จนนักวิทยาศาสตร์บอกว่ามันมีความเป็นไปได้สูงที่ในอดีต เอิตซีจะเคยใช้เชือกเหล่านี้ ผูกกับปลายของไม้ เพื่อทำเป็นคันธนูมาก่อน
และด้วยความที่ว่าสายธนูตามปกติแล้วจะเป็นสิ่งที่บอบบาง ย่อยสลายไปตามการเวลาง่าย ก็ทำให้เชือกเหล่านี้ กลายเป็นสายธนูที่เก่าแก่ที่สุด เท่าที่เราเคยพบมาในโลกได้ไม่ยากเลย
“ตอนนี้เอิตซีได้กลายเป็นผู้ถือครองสถิติอีกชิ้น” พิพิธภัณฑ์โบราณคดีเซาท์ไทรอลกล่าวเกี่ยวกับการค้นพบ “สายธนูที่ขดบิดอย่างมีศิลปะของเขานั้น ได้กลายเป็นสายธนูที่ที่เก่าแก่และยังถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีที่สุดในโลกไปแล้ว”
ที่มา foxnews, iceman และ ancient-origins
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น