เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะเคยประสบกับปัญหา “เน็ตช้า เน็ตกระตุก” จนทำให้ไม่สามารถท่องโลกออนไลน์ได้อย่างปกติ แน่นอนว่ามันสร้างความหงุดหงิดให้เราได้อย่างมากมายมหาศาล
และปัญหานี้เองก็เกิดขึ้นกับคุณตา Aaron M. Epstein วัย 90 ปี จากเมือง North Hollywood รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
เรื่องของเรื่องก็คือคุณตา Aaron ได้ใช้บริการกับบริษัทให้บริการอินเตอร์เน็ตชื่อว่า AT&T ตั้งแต่ปี 1960 มาจนถึงปัจจุบัน รวมแล้วนานกว่า 60 ปี โดยที่ไม่เคยเปลี่ยนไปใช้บริการเจ้าอื่นเลย
จากข้อมูลทราบว่าอินเตอร์เน็ตที่คุณตาใช้นั้นมีความเร็วอยู่ที่ราวๆ 3.5 Mbps ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่คิดว่ามันเป็นปัญหา เพราะปกติแล้วไม่ค่อยใช้อินเตอร์เน็ตทำอะไรมากมายนัก ส่วนมากก็เข้าเว็บ หรือตอบอีเมลเท่านั้น
แต่ในช่วง 5 ปีหลังนี้ มีบริการสตรีมมิ่งเกิดขึ้นมากมาย พอคุณตาเริ่มลองเปิดดู ก็พบว่ามันไม่สามารถเปิดดูได้อย่างลื่นไหล
และในปัจจุบันช่วงที่เกิดเหตุการณ์โรคระบาดนี้ ก็เลยทำให้คุณตาและภรรยาต้องอาศัยอยู่แต่ที่บ้าน
ด้วยความที่มีเวลาว่างเยอะ ก็เลยมักจะใช้อินเตอร์เน็ตในการเปิดดูบริการสตรีมมิ่งต่างๆ เช่น Netflix หรือ Youtube แต่เนื่องจากว่าความเร็วเน็ตมันมีแค่ 3.5 Mbps เลยทำให้ไม่สามารถดูได้
คุณตา Aaron เปิดเผยว่าการดู Netflix ของเขาและภรรยานั้น มันเหมือนกับดูสไลด์โชว์ มาเป็นภาพ หยุด แล้วก็ค่อยๆ ขยับไปเรื่อยๆ ไม่มีความต่อเนื่อง ทำให้รู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างยิ่ง
พอมันเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นคุณตาเลยโทรหาผู้ให้บริการทางอินเตอร์เน็ต เพื่อขอเพิ่มความเร็วของอินเตอร์เน็ต แต่ก็ได้รับการตอบกลับจากพนักงานบอกว่า ในเมืองที่เขาอาศัยอยู่นั้นไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีเสาสัญญาณ
และเนื่องจากว่าการเปลี่ยนผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต คุณตาจะต้องเปลี่ยนค่ายโทรศัพท์ และที่อยู่อีเมลด้วย ซึ่งคุณตาไม่สะดวก ก็เลยตัดสินใจที่จะแก้ไขปัญหานี้ด้วยวิธีการของคุณตาเอง
เขาก็เลยตัดสินใจที่จะซื้อโฆษณากับหนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal เป็นคอลัมน์ที่เขียนหัวข้อเอาไว้ว่า “จดหมายเปิดผนึกถึงคุณ John T.Stankey CEO ของบริษัท AT&T” ซึ่งหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวถูกวางขายในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2021 ที่ผ่านมา ในเมืองนิวยอร์ก และเท็กซัส
และเนื้อความในจดหมาย คุณตาเขียนเอาไว้ว่า “ชีวิตของเรารายล้อมไปด้วยเทคโนโลยีที่มีความคิดสร้างสรรค์อย่าง Universal, Warner Brothers, Disney”
“เราจะต้องเกาะติดกับเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน และคุณเอง (AT&T) ในฐานะที่เป็นบริษัทผู้ให้บริการ ที่จะสามารถทำให้พวกเราสามารถติดตามและใกล้ชิดกับเทคโนโลยีเหล่านั้นได้ จะต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”
“ในขณะที่บริษัท AT&T โฆษณาว่าพร้อมให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง 100 MBS ให้กับคนอื่นๆ แต่สำหรับบ้านของเราแล้ว ATT&T กลับให้ได้แค่ 3 MBS และคู่แข่งอื่นๆ เค้าให้บริการไปถึง 200 MBS กันแล้ว แล้วทำไม AT&T ที่เป็นบริษัทชั้นนำด้านการสื่อสาร ถึงทำกับผู้ให้บริการใน North Hollywood ได้แย่แบบนี้”
และแน่นอนว่าการลงโฆษณากับทาง The Wall Street Journal ที่เป็นหนังสือพิมพ์ระดับท็อปๆ ของอเมริกา ทำให้คุณตา Aaron ต้องเสียเงินไปทั้งหมดกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ (300,000 บาท) เลยทีเดียว
หลังจากที่หนังสือพิมพ์ฉบับที่คุณตาซื้อโฆษณาถูกเผยแพร่ออกไป ในวันถัดมาก็มีสายโทรศัพท์โทรมาจาก CEO ของ AT&T เพื่อแจ้งว่าพวกเขารับทราบถึงปัญหาแล้ว และจะทำการส่งเจ้าหน้าที่เทคนิคเข้าไปทำการเพิ่มความเร็วอินเตอร์เน็ตให้
แน่นอนว่าคุณตาเองก็พึงพอใจเป็นอย่างมากหลังจากที่ปัญหานี้ได้รับการแก้ไข
“มันเร็วกว่าเดิมมากโขเลยล่ะ ผมคิดไว้แล้วมันจะต้องเป็นแบบนี้”
“ผมขอบอกไว้ก่อนนะว่าผมไม่ใช่คนใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่าย และเงินจำนวน 10,000 เหรียญ ก็ถือเป็นจำนวนที่มากสำหรับผมเหมือนกัน แต่ผมคิดว่าหากจ่ายเงินจำนวนนี้ไป มันจะทำให้ปัญหาที่ผมเจอได้รับการคลี่คลาย”
“ผมก็แค่อยากอยู่บ้านกับภรรยาแล้วก็นั่งดู Netflix กับบริการสตรีมมิ่งอื่นๆ เท่านั้น ไม่มีอะไรจะกล่าวถึงเงินที่เสียไปอีกแล้ว” คุณตา Aaron กล่าว
เรียกได้ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่สุดจัดปลัดบอกจริงๆ ขอให้คุณตาสนุกกับการรับชม Netflix นะครับ
เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว
ที่มา : nypost, ncbnews, washingtonpost
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น