ย้อนกลับไปในปี 2019 รัฐบาลปากีสถานจัดโครงการ “สึนามิต้นไม้” โดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนพื้นที่ใกล้กับโรงไฟฟ้า Balloki ซึ่งดูเหมือนพื้นที่เสื่อมโทรมและแห้งแล้ง
พวกเขาตั้งเป้าว่าจะทำให้มันกลายเป็นพื้นที่สีเขียวให้ได้ จึงเป็นที่มาของโครงการปลูกต้นไม้ครั้งใหญ่ดังกล่าว
หลังจากดำเนินโครงการไปได้ประมาณ 1 ปี รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมปากีฯ ก็โพสต์คลิปแสดงความเปลี่ยนแปลง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
Was a treat to visit #BallokiNatureReserve #Lahore after a year – #PMIK @ImranKhanPTI inaugurated this in 2019 as part of #10BillionTreeTsunami and the plantation results in a year are phenomenal – #Change and #NayaPakistan IA pic.twitter.com/H8dtvRDXty
— Malik Amin Aslam (@aminattock) July 31, 2020
.
พื้นที่ซึ่งคุณกำลังเห็นอยู่นี้ คือพื้นที่นำร่องบริเวณใกล้โรงไฟฟ้า Balloki ซึ่งจะเห็นได้ว่านอกจากมีต้นไม้ที่ปลูกแล้ว ยังมีพืชหลายชนิดขึ้นมาอีก
ซึ่งแม้จะยังไม่ใช่พื้นที่ป่าอย่างที่ตั้งใจ แต่การเปลี่ยนพื้นที่ดินแห้งแล้งเป็นพื้นที่สีเขียวได้ ทางรัฐบาลปากีฯ มองว่าประสบความสำเร็จ
โครงการดังกล่าว ตั้งใจจะปลูกต้นไม้ให้ครบ 10,000 ล้านต้น ภายในระยะเวลาอีก 5 ปีนับตั้งแต่ปีที่แล้ว หรือก็คือสิ้นสุดในปี 2024
รายงานจาก The Redd Monitor ระบุว่าตอนนี้มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มแล้วมากกว่า 2 ล้านไร่
แม้ที่ผ่านมา จะมีเสียงวิจารณ์ถึงเรื่องการคอรัปชั่นภายในโครงการอยู่บ้าง แต่ก็ได้รับเสียงชื่นชมจากหน่วยงานใหญ่ๆ ทั้ง World Economic Forum, WWF หรือ IUCN
นอกจากนี้ การจ้างปลูกต้นไม้ ยังทำให้เกิดการจ้างงานในท้องถิ่น พื้นที่ห่างไกลต่างๆ เป็นรายได้เสริมเล็กๆ น้อยๆ ของประชาชนในพื้นที่
ซึ่งน่าสนใจว่า เมื่อจบโครงการระยะเวลา 5 ปี ผลของพื้นที่สีเขียวที่เพิ่มขึ้นมา จะเป็นผลดีต่อปากีสถานมากน้อยเพียงใด
แต่ก็หวังว่า หลังจากเสร็จสิ้นโครงการแล้ว พวกเขาจะยังคงอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวเหล่านั้น ให้คงอยู่ไปได้อีกนานแสนนาน…
เรียบเรียง #ประธานเหมียว
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น