CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

ชมทฤษฎี “Phantom time” แนวคิดที่อ้างว่าเรายังคงอยู่ในปี 1724 และ “ยุคกลาง” ไม่มีอยู่จริง!?

ด้วยสารพัดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เชื่อว่าคงจะมีหลายคนไม่น้อยที่เริ่มรู้สึกว่าช่วงปี 2020-2021 นั้น มันช่างเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายเหลือเกินกันไม่น้อย

แต่เชื่อหรือไม่ว่าอ้างอิงจากนักประวัติศาสตร์ชาวเยอรมันจากช่วงยุค 90 แล้ว มันก็ไม่แน่เหมือนกันว่าจริงๆ แล้วเราอาจจะไม่ได้มีชีวิตอยู่ในปี 2021 จริงๆ ก็เป็นได้

กลับกันในปัจจุบันนั้น เราจะต้องอาศัยอยู่ในช่วงปี 1724 ด้วยซ้ำ!! เพราะบางช่วงเวลาของ “ยุคกลาง” เป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง!?

 

 

แนวคิดที่ว่านี้เป็นที่รู้จักกันในนาม “Phantom time hypothesis” ทฤษฎีสมคบคิดที่กล่าวว่า จริงๆ แล้ว ช่วงเวลาส่วนต้นของยุคกลางนั้น เป็นเพียงเรื่องแต่งเท่านั้น และช่วงเวลาดังกล่าว ก็ยาวนานถึง 297 ปีเลยด้วย

Phantom time hypothesis นั้น ถูกคิดค้นขึ้นโดย Herbert Illig นักประวัติศาสตร์ชาวเยอรมัน

โดยเขานั้นได้อ้างว่าความเหลื่อมล้ำของเวลานี้ ถูกพบในช่วงปี 1582 เมื่อพระสันตะปาปาเกรโกรีที่ 13 ได้นำปฏิทินกริกอเรียน มาใช้แทนปฏิทินจูเลียน ซึ่งมีข้อเสียอยู่ที่ทุกๆ 128 ปี โลกจะมีวันเพิ่มขึ้น 1 วัน

 

 

อย่างไรก็ตามในการเปลี่ยนปฏิทินแทนที่พระสันตะปาปาจะปรับวันไป 13 วันเพื่อชดเชยช่องว่างของเวลาจากปฏิทินจูเลียน ในเวลานั้นเขากลับวันไปแค่ 10 วัน

แน่นอนว่าตามปกติเราจะคิดว่านี่เป็นเพียงแค่ความผิดพลาดในการคำนวนของพระสันตะปาปาเท่านั้น แต่ Herbert กลับมองว่าหากตัวเลขนี้เป็นความจริง มันจะหมายความว่าโลกของเรามีช่วงเวลาที่หายไปถึงราวๆ 300 ปี

 

 

ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะย้อนกลับไปตรวจสอบประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา และพบว่า

ในช่วงปี ค.ศ. 1000 พระสันตะปาปาซิลเวสเตอร์ที่ 2 จักรพรรดิอ็อทโต้ที่ 3 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 7 แห่งไบแซนไทน์

ได้เปลี่ยนระบบการนับวันเวลาใหม่เพื่อให้อ็อทโต้ที่ 3 ขึ้นครองราชย์ในปี ค.ศ.1000

แต่แทนที่จะคิดว่าทั้ง 3 คน จะเลื่อนเวลาไปแค่ 4 ปี (จากค.ศ. 996) ตามที่เราบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ Herbert กลับเชื่อว่า จริงๆ แล้วทั้ง 3 น่าจะเลื่อนเวลาไปเกือบๆ 300 ปี

 

จากซ้ายไปขวาพระสันตะปาปาซิลเวสเตอร์ที่ 2, จักรพรรดิอ็อทโต้ที่ 3 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์, และจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 7 แห่งไบแซนไทน์

 

โดยทั้ง 3 ถูกระบุว่า อาจแต่งเรื่องราวในช่วงต้นยุคกลาง ค.ศ. 614-911 (เช่นชาร์เลอมาญ) ขึ้นมา ทั้งๆ ที่มันไม่มีอยู่จริง (ตามความคิดของ Herbert)

เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในช่วงเวลานี้ ถึงมีอยู่น้อยเหลือเกิน และทำไมกันลักษณะสถาปัตยกรรมหลายๆ อย่างในอดีต ถึงดูทันสมัยมากกว่าที่มันควรเป็น

 

อาสนวิหารอาเคิน จากปี 800-900 หนึ่งในสถาปัตยกรรมที่ Herbert อ้างว่าดูทันสมัยมากกว่าที่ควรเป็น

 

นี่นับว่าเป็นอีกทฤษฎีสมคบคิดที่น่าสนใจเลยทีเดียว แต่ปัญหาคือดูเหมือนคุณ Herbert จะมองโลกจากมุมมองของประวัติศาสตร์ฝั่งตะวันตกเป็นหลักเท่านั้น

นั่นเพราะทฤษฎีของเขาแม้จะมีคนเชื่ออยู่เป็นจำนวนหนึ่ง แต่มันก็มักจะถูกล้มล้างโดยนักโบราณคดีกลุ่มที่ศึกษาประวัติศาสตร์ฝั่งตะวันออกอยู่บ่อยๆ

เนื่องจากในประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานอย่างจีน (โดยเฉพาะในสมัยราชวงศ์ถัง) ได้มีการบันทึกเรื่องราวการเคลื่อนที่ของดาว ในช่วงปี 618-907 เอาไว้อย่างชัดเจนเลยนั่นเอง

 

หนึ่งในหลักฐานการมีอยู่ของราชวงศ์ถัง

 

ซึ่งนั่นก็ทำให้แทนที่เราจะคิดว่าเวลาของโลกหายไป 297 วันจริงๆ มันจะมีความเป็นไปได้สูงกว่ามากที่ในปี 1582 พระสันตะปาปาเกรโกรีที่ 13 จะแค่คำนวณวันผิดไปเท่านั้น

 

ที่มา iflscience


Tags:

Comments

ใส่ความเห็น