ยังคงเป็นบุคคลที่มีไฟสปอต์ไลท์ส่องตามตัวอยู่แทบทุกวัน หลังจากที่คลิปของพิมรี่พาย หรือ พิมพ์พรรณ สรัลรัชญ์ ในการขึ้นดอยไปจัดงานวันเด็กใน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ด้วยงบส่วนตัว 500,000 บาท เพื่อซื้อของบริจาคพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กๆ บนดอย จนกระทั่งกลายเป็นกระแสวิจารณ์ต่อเนื่องหลายวัน
ท่ามกลางกระแสทั้งชื่นชมและวิจารณ์ด้านลบต่างๆ ทางพิมรี่พายได้ออกมาไลฟ์ผ่านเพจ พิมรี่พายขายทุกอย่าง ซึ่งเป็นการไลฟ์ชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้นทั้งหมดหลังจากปล่อยคลิปจัดงานวันเด็กไป และเป็นยอดไลฟ์ที่มีคนดูมากถึง 6 ล้านวิว และมีคนดูไลฟ์พร้อมกันมากถึง 5 แสนคน
ไลฟ์เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2564
พิมรี่พายเปิดใจในไลฟ์ครั้งนี้ว่า ตนเองเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาใช้ชีวิตปกติทั่วไป เลือกเป็นแม่ค้าแล้วก็เลือกที่จะทำประโยชน์คืนสู่สังคม เมื่อมีคนสนใจมากก็ต้องขอบคุณจากใจ รู้สึกจุกอยู่ในอก ไม่คิดว่าเรื่องจะใหญ่โตไปไกลขนาดนี้
กล่าวถึงผู้ชมคลิป ผู้ที่ชื่นชม และผู้ที่แสดงความคิดเห็นอีกฝั่ง เธออยู่ในจุดที่ทุกคนมองเห็น ต้องสร้างภาพให้ลูกค้าเห็นว่า อาชีพของเธอคืออาชีพสร้างภาพหากิน
แต่จะเป็นในรูปแบบใดก็คือทางของพิมที่จะเลือกแบบไหนคืนให้สังคม อยู่ที่คุณธรรมและจริยธรรมของเธอ ทุกครั้งที่ไปกินอะไรเธอก็แทบไม่ต้องจ่าย เพราะคุณป้าที่ดูคลิปเธอเอ็นดู เธอจึงรู้สึกมีพลังบวก ใจฟู และอิ่มเอม
จุดเริ่มต้นคอนเทนต์ทำดี
เธอชี้แจงว่าแต่ก่อนเคยทำแต่เนื้อหาบ้าบอ แต่งหน้า ทำกับข้าว ก็พอมีลูกค้าดูอยู่ประมาณหนึ่ง แต่พอทำคลิปความดีก็ปังมาก เธอเป็นแม่ค้าออนไลน์มา 3 ปี
ช่วงเวลาที่เติบโตกับพ่อแม่ที่มีอาชีพค้าขาย เธอไม่มีเงินไปโรงเรียน ต้องนำข้าวแกงที่บ้านไปขายครู เพื่อแลกเป็นเงินซื้อขนม นั่นก็วิถีชีวิตของเธอ อยากมีเงินก็ต้องหาของไปขายเป็นเงิน
เมื่อเริ่มขายของออนไลน์มีเงินล้านบาทแรก เมื่อ 2 ปีที่แล้วก็นำเงินล้านแรกไปให้พ่อแม่ แต่พ่อบอกว่าเงินของลูก ลูกก็ควรนำไปใช้ เธอจึงเริ่มมีชีวิตแบบใหม่ ไม่อยากนั่งรถเมล์ ออกรถมาขับ
จนวันหนึ่งสั่งกับข้าวมาเยอะไม่สนใจราคา จากเมื่อก่อนสั่งไม่ได้ นั่งกินคนเดียวไม่หมด จนมาคิดกับตัวเองว่ากินเท่าที่อิ่มก็พอ
จึงเปลี่ยนความคิดว่าการเป็นเศรษฐีไม่ใช่การฟุ้งเฟ้อ คิดว่าหาเงินให้ลูก ให้ครอบครัว แต่ทุกคนบอกว่าไม่ต้องให้ ลูกน้องก็ดูแลหมดแล้ว จึงคิดว่าจะทำคอนเทนต์อะไรดี
พอลูกค้าพูดว่าขายมาเลย เดี๋ยวซื้อเอง ในเมื่อสังคมรักเธอขนาดนี้ คอนเทนต์บ้าบอเลยหายไป เริ่มทำคอนเทนต์ทำความดีแทน นำเงินไปช่วยคน ได้จากสังคมเท่าไหร่ ก็คืนกลับไปเท่านั้น ทำอย่างเต็มที่และเต็มใจ
ถ้ามีคนมาขอกับพิม พิมก็ให้หมด ยึดหลักกตัญญูกับพ่อแม่ตลอด ยึดหลักกตัญญูกับผู้มีพระคุณตลอด และคอนเทนต์นี้เธอยึดหลักกตัญญูกับแผ่นดินบ้านเกิด แล้วเธอผิดอะไร
พิมไม่ผิด
พิมกล่าวว่ามันไม่มีใครผิด พิมมั่นใจว่าพิมไม่ผิด ผู้หญิงคนหนึ่งอยากทำความดี มองโลกใหม่แล้ว ไม่ด่า ทำความดีให้สังคม จึงถามกลับว่า ‘กูผิดอะไร’
ถ้าผิดจะโทษตัวเอง พิมขอโทษทุกท่าน ถ้าเรื่องนี้จะผิดที่พิมด้วยความบกพร่อง ก็เป็นเพราะไม่ได้ประสานเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่ดูแล ต้องนี้ขอประทานอภัยจริงๆ
หากใครที่เห็นต่างไปในเรื่องอื่น ขออนุญาตบอกไว้ว่าขอให้มองถึงเจตนาของพิม เธอแค่อยากทำความดีตอบแทนคุณแผ่นดิน ยืนยันว่ามั่นใจว่าตนเองทำความดี ไม่ได้มีเจตนาอะไรไม่ดี
ฝากถึงทุกคนที่ชื่นชมเอ็นดูแล้วก็รักพิมรี่พาย ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องสงสาร ไม่ต้องให้กำลังใจ ไม่ต้องเซฟพิมรี่พาย ทำความดี ไม่ได้ทำอะไรผิด เจตนาดี คุณธรรม จริยธรรมมีในใจของพิม
ส่วนน้องๆ ที่เอาพิมเป็นตัวอย่าง ไม่หวั่นไหวกับการทำความดี จะทำต่อ สนับสนุนให้น้องๆ ทำความดี และเธอจะทำความดีต่อไป ไม่มีทางหวั่นไหว ไม่ต้องเซฟ ไม่มีใครรังแกอะไรพิมทั้งนั้น
ฝากถึงคนดราม่า
พิมรี่พายระบุถึงบุคคลที่กล่าวว่า เสนอหน้าเอาของไปให้เขา เขาชอบหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไปยัดเยียดให้เขา เธอตอบกลับว่า “เสือก อส เขาไม่เอาเขาก็ทิ้งเอง อห เขาไม่เอาเขาก็โยนทิ้งเองค่ะ” โอเคนะ ใครอยากทำความดีทำเลย อย่ากลัวว่าจะทำความดีแล้วโดนด่า ทำความดีต่อไป อย่าท้อในการทำความดี พิมจะทำความดีต่อไป
“อีกอย่างหนึ่งพวกจะดราม่าอะไรกัน เอาไปโยงทำไม เอาไปเป็นเครื่องมือความสนุกให้ทะเลาะกันทำไม โยงอะไรนักหนา แล้วคนที่อยากทำความดีจะทำต่อได้มั้ย เงินหาเอง แจกเอง ไม่ต้องสาระแน เดี๋ยวติบติดข้างฝา”
ก่อนจะจบการชี้แจงครั้งนี้ พิมรี่พายระบุว่าจะไลฟ์ขายของต่อ และยืนยันอีกครั้งว่าจะทำความดีต่อไปเรื่อยๆ เพราะคอนเทนต์ทำความดียังมีอีกเป็นสิบหน้ากระดาษ และจะดำเนินต่อไปตามปกติ
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ที่มา: @pimrypie.cosmatic
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น