CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

โรงเรียนคริสต์ไล่นักเรียนหญิงออก หลังโพสต์ภาพใส่เสื้อ-เค้กสีรุ้ง ว่าเป็นสัญลักษณ์เกย์

เกิดเป็นประเด็นที่สร้างความงงให้กับชาวบ้านชาวเมืองสหรัฐฯ หลังจากที่นักเรียนหญิงวัย 15 ปี จากรัฐเคนทักกี ถูกโรงเรียนคริสต์เอกชนไล่ออกเนื่องจากฝ่าฝืนกฎวิถีการใช้ชีวิต เพราะภาพใส่เสื้อกันหนาวสีรุ้งคู่กับเค้กสีรุ้ง…

 

 

Kayla Kenney นักเรียนหญิงจากโรงเรียนคริสต์ Whitefield Academy ในเมืองลุยวิลล์ เฉลิมฉลองวันเกิดพร้อมหน้ากับครอบครัวในวันเกิดสุดพิเศษที่ภัคตาคาร โดยมีคุณแม่ Kimberly Alford เป็นผู้ถ่ายภาพดังกล่าวและนำไปลงโซเชียล

 

 

แต่แล้วก็มีใครบางคนนำภาพดังกล่าวส่งไปถึงทางโรงเรียน ไม่ทันไรก็มีอีเมลจากครูใหญ่ส่งตรงมาชี้แจงให้กับครอบครัวของเด็กหญิงทราบว่า ภาพถ่ายคู่กับสีรุ้งฝ่าฝืนกฎวิถีการใช้ชีวิตขั้นรุนแรง

“มีอีเมลส่งมาแจ้งว่า Kayla ถูกไล่ออกจากโรงเรียน Whitefield และมีผลทันที จากภาพที่โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ฉันรู้สึกถูกตัดสิน ลูกก็รู้สึกเหมือนกัน พวกเรารู้สึกพังไปเลย”

 

 

ใจความท้ายอีเมลระบุว่า ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงท่าทางของคุณธรรมและการยอมรับทางวัฒนธรรมที่ตรงกันข้ามกับความเชื่อของสถาบัน Whitefield Academy

อย่างไรก็ตาม หากทางพ่อแม่หรือผู้ปกครองต้องการร้องเรียนเรื่องโทษไล่ออกของบุตรหลาน สามารถยื่นเรื่องได้ภายใน 3 วัน แต่สำหรับเคสนี้ทางโรงเรียนปฏิเสธทุกกรณี

 

 

ผู้เป็นแม่ให้ข้อมูลกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่า ครูใหญ่ Bruce Jacobson ชี้ถึงตัวเค้กสีรุ้งกับสีบนเสื้อกันหนาวของลูกสาว เป็นการแสดงออกและสื่อถึงวัฒนธรรมเกย์ไพรด์

ครูใหญ่ให้เหตุผลเพิ่มเติมว่าผลที่ต้องไล่น้อง Kenny ออก เป็นเพราะเคยละเมิดกฎจรรยาบรรณนักเรียนมานานถึง 2 ปีแล้ว

ส่วนทางฝั่งคุณแม่ Alford ระบุว่าลูกสาวอยู่ในช่วงคุมประพฤติอยู่ หลังจากที่ถูกจับได้ว่าเธอพกบุหรี่ไฟฟ้าไปโรงเรียนในเดือนตุลาคม แต่หลังจากนั้นก็ไม่เคยมีปัญหาด้านระเบียบวินัยหรือการเรียนเลย

 

 

นอกจากนั้นแล้วแม่ยังยืนยันว่าลูกสาวเป็นผู้หญิงจริงๆ และสีเค้กที่เห็นนั้นเป็นเพียงแค่การตกแต่งสีบนหน้าเค้กก็เท่านั้นเอง

“ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าโรงเรียนตีตราลูกสาวไปแล้ว เพียงแค่ใส่เสื้อสีรุ้งไม่ได้หมายความว่าลูกสาวฉันจะผิดเพศสักหน่อย”

ท้ายที่สุดแล้วแม้ลูกสาวจะถูกไล่ออกด้วยเหตุผลเช่นนี้ คุณแม่ก็ไม่ง้อโรงเรียนเก่า พาลูกสาวไปเข้าเรียนโรงเรียนรัฐแห่งอื่นแทน

 

ที่มา: courier-journal, nypost, dailymail, today


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น