CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

หนุ่มสหรัฐฯ ผวา พลาดฉีดวัคซีนผสมกัน เข็มแรกเป็น Moderna แต่เข็มที่สองเป็น Pfizer

เชื่อว่าในช่วงเวลาที่โรคโควิด-19 กำลังกลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเช่นนี้ หลายๆ คนอาจเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่าวัคซีนโควิด-19 ส่วนมากแล้วจะต้องฉีด 2 เข็มในช่วงเวลาที่ห่างกัน

และนั่นก็ดูเหมือนจะทำให้ผู้เข้ารับวัคซีนคนหนึ่ง ต้องพบกับเรื่องราวแปลกๆ ที่อาจจะไม่ค่อยดีต่อใจเท่าไหร่จนได้ เมื่อทีมแพทย์ในสหรัฐอเมริกาบังเอิญฉีดวัคซีนที่ต่างกัน 2 ชนิดกับเขา ในการฉีดวัคซีน 2 เข็มเสียอย่างนั้น

 

 

เรื่องราวในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2021 ที่ผ่านมา เมื่อคุณ Craig Richards จากเมือง Lempster ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ได้เดินทางไปรับวัคซีนเข็มที่สอง

หลังจากเมื่อวันที่ 16 มีนาคมปีเดียวกัน ชายคนนี้ได้ฉีดวัคซีน Moderna ไปเป็นวัคซีนเข็มแรก

ปัญหาคือในระหว่างการเข้าฉีดวัคซีนเข็มที่สอง บุคลากรทางการแพทย์กลับทำพลาดฉีดวัคซีน Pfizer ให้กับเขาเสียอย่างนั้น!!

 

 

เรื่องที่เกิดขึ้นนี้สร้างความตกใจให้กับทั้งบุคลากรทางการแพทย์และคุณ Richards เป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตามเมื่อผู้ดูแลจากกระทรวงสาธารณสุขนิวแฮมป์เชียร์มาถึงที่เกิดเหตุ ความตึงเครียดที่เกิดขึ้น ก็ดูจะทุเลาลงเล็กน้อย

นั่นเพราะอ้างอิงจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค แม้พวกเขาจะไม่แนะนำให้ผู้เข้ารับวัคซีนรับวัคซีนที่ต่างกัน 2 ชนิดก็ตาม แต่ในกรณีที่วัคซีนสองชนิดที่ใช้เทคโนโลยี mRNA  ถูกฉีดให้ผู้รับวัคซีนโดยบังเอิญ

ผู้รับวัคซีนคนดังกล่าวจะถือว่าไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนใหม่อีกเข็มแต่อย่างไร

 

 

นับว่าเป็นโชคดีของคุณ Richards มาก ที่วัคซีน Moderna และ Pfizer นั้นล้วนแต่จะเทคโนโลยี mRNA ทั้งสิ้นดังนั้นเขาจึงอยู่ในข่ายผู้รับวัคซีนข้างต้น

โดยทางเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขยังได้ให้ข้อมูลกับเขาเพิ่มเติมด้วยว่า

จริงๆ แล้วศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคยังแนะนำไว้ด้วยว่าเจ้าหน้าที่สามารถฉีดวัคซีนคนละยี่ห้อให้คนไข้ได้ ในกรณีที่ทั้งคู่ใช้เทคโนโลยี mRNA และวัคซีนยี่ห้อที่ใช้ฉีดเข็มแรกขาดแคลน

 

 

ถึงอย่างนั้นก็ตามการรับวัคซีนที่ต่างกันเช่นนี้ ในปัจจุบันก็ยังไม่มีการศึกษาทางการแพทย์ใดๆ ที่ออกมายืนยันว่ามันจะได้ผลเทียบเท่ากับการรับวัคซีนชนิดเดียวกัน 2 เข็มหรือไม่เช่นกัน

ดังนั้นหากเป็นไปได้มันจึงจะเป็นการดีกว่ามากหากอุบัติเหตุเช่นนี้ไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต

 

ที่มา dailymail และ nypost


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น