ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบริการที่น่าสนใจและแตกต่างไปจากการทำพิธีศพที่เราเคยเห็นกันมาก่อน นั่นคือการ “นำร่างของผู้ตายไปทำเป็นปุ๋ย”
Recompose คือชื่อของบริษัทสัญชาติอเมริกันที่ให้บริการในเรื่องนี้ ซึ่งพวกเขาถือว่าเป็นเจ้าแรกของโลก เพราะไม่เคยมีที่ไหนเคยทำมาก่อน
บรรยากาศการทำพิธีศพด้วยวิธีการดังกล่าว
Katrina Spade ประธานบริหารผู้ก่อตั้งบริษัทแห่งนี้กล่าวว่า จุดเริ่มต้นไอเดียการทำศพมนุษย์ให้กลายเป็นปุ๋ยเกิดขึ้นเมื่อ 13 ปีก่อน ในตอนที่เธอคิดถึงงานศพของตัวเอง
“พอฉันตายไป ฉันก็อยากคืนสิ่งที่ฉันเหลืออยู่ให้แก่โลก? เพราะมันคอยดูแลและปกป้องฉันมาตลอดทั้งชีวิตแล้ว นี่จึงเป็นตรรกะง่ายๆ แต่สวยงาม”
Katrina ผู้ก่อตั้ง Recompose
จากการทดลองมานานหลายปี ท้ายที่สุดเธอก็สร้างสถานรับทำศพแบบพิเศษนี้ขึ้นมาในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน เพื่อการหมักซากศพให้ย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยชั้นดี
วิธีการที่ใช้ก็คือนำศพใส่ในช่องหกเหลี่ยม ภายในประกอบไปด้วยเศษไม้, หญ้า Alfafa , ฟาง และจัดให้มีการไหลเวียนของอุณหภูมิกับสภาพอากาศที่เหมาะสม เพื่อเร่งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์
หลังจากผ่านไปราว 30 วัน เนื้อเยื้อร่างกายของผู้ตายจะย่อยสลายอย่างสมบูรณ์ ได้กลับมาเป็นดินปุ๋ยราว 1 ลูกบาศก์เมตรต่อ 1 ศพ
ปุ๋ยที่ได้จะถูกแจกจ่ายให้ญาติและคนใกล้ชิดของผู้ตาย สำหรับการนำไปปลูกต้นไม้ ทำสวน
หากมีส่วนที่เหลืออยู่ ทางบริษัทจะนำไปใช้เพื่อการอนุรักษ์โลกต่อไป
โดยพวกเขากล่าวว่า วิธีการดังกล่าวนั้นถือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก มากเสียยิ่งกว่าการใส่โลงฝังลงดิน หรือวิธีการเผาศพฌาปนกิจ
Katrina บอกว่าการย่อยสลายร่างของผู้เสียชีวิต 1 รายให้กลายเป็นปุ๋ยนั้น สามารถช่วยลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนฯ ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศได้มากถึง 1 ตัน…
“ไม่ใช่แค่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ยังสามารถผลิตดินปุ๋ยที่อุดมสมบูรณ์และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าและทำให้พิธีการทำศพนั้นยิ่งมีความหมายมากกว่าเดิม”
สำหรับบริการดังกล่าวก็ได้รับการยอมรับจากทางรัฐวอชิงตันให้สามารถทำได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว โดยพวกเขาจะเริ่มจากการให้บริการในเมืองซีแอตเทิลเป็นที่แรก ปี 2021
และ Katrina ก็เชื่อว่าแนวคิดการทำศพในลักษณะนี้จะได้รับความนิยม และเธอตั้งใจจะไปเปิดการให้บริการในสหราชอาณาจักรต่อไป
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น