ย้อนกลับไปเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จากเหตุการณ์ที่มีหญิงชราวัย 76 ปี เชื้อสายเอเชีย ที่อาศัยอยู่ที่เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ที่จู่ๆ ก็โดนวัยรุ่นผิวขาว เข้ามาชกต่อยทั้งที่เธอไม่ได้ทำอะไร เธอจึงสวนกลับจนกลายเป็นข่าวดัง
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง : ป้าเอเชียวัย 76 ยืนดีๆ โดนหนุ่มฝรั่งต่อย – คว้าไม้ฟาดคืนติดคริรัวๆ จนอีกฝ่ายได้เลือด
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง : ผู้คนแห่บริจาค ช่วยเหลือหญิงชราเอเชีย “โดนหนุ่มฝรั่งต่อย” รวมเป็นเงินกว่า 23 ล้านบาท!!
Xiao Zhen Xie หญิงชาวเอเชียวัย 76 ปีที่ถูกทำร้ายโดยไม่มีสาเหตุ
หนุ่มผิวขาววัยประมาณ 30 ปีที่ทำร้ายหญิงชาวเอเชียโดยไม่มีสาเหตุ
หลังเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ที่สหรัฐฯ เกิดกระแสรณรงค์ให้มีการหยุดเกลียดชังชาวเอเชียขึ้นมา พร้อมกับแฮชแท็กในโลกโซเชียลว่า #StopAsiansHate ที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็ได้มีการเดินขบวนรณรงค์เพื่อต่อต้านการเกลียดชังชาวเอเชียขึ้นที่มหานครนิวยอร์ก และได้มีการเผยว่า Rihanna นักร้อง นักแสดงชื่อดัง ที่ปัจจุบันผันตัวมาทำแบรนด์เครื่องสำอาง ได้มาเข้าร่วมเดินขบวนด้วย
แม่ค้าเครื่องสำอางชื่อดังนั้น ได้เดินขบวนร่วมกับ Tina Truong ที่เป็นผู้ช่วยของเธอมาเป็นเวลานาน ซึ่ง Tina ก็ได้ถ่ายบรรยากาศการเดินขบวนลงบนอินสตาแกรมของเธอ
แม้จะแต่งตัวอย่างมิดชิดแต่เห็นแล้วก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือ Rihanna
View this post on Instagram
Rihanna เขียนป้าย Hate = Racism Againts God แปลว่า ความเกลียดชัง = เหยียดต่อพระเจ้า
.@Rihanna attended a #StopAsianHate march in New York City with her assistant, Tina Truong. pic.twitter.com/gpNHqBg53T
— Pop Crave (@PopCrave) April 5, 2021
Rihanna โชว์ลวดลายความเป็นป๊อปสตาร์ เต้นตามจังหวะกลองนำขบวน แม้จะผันตัวไปเป็นแม่ค้าแล้วก็ตาม
Rihanna was out in NYC at the Stop Asian Hate march alongside her assistant!! (?: @teacuptina) pic.twitter.com/ohqNXuNP0x
— TheShadeRoom (@TheShadeRoom) April 5, 2021
นอกจากนี้ยังมีจังหวะที่ Rihanna แลก IG กับคนในขบวนประท้วง และเมื่อเธอเปิดแอคเคาท์ให้ดูคนในขบวนถึงกับถามย้ำอีกทีว่านี่เธอจริงๆ หรือ?
Rihanna giving her Instagram handle to protesters at the #StopAsianHate march in NYC. pic.twitter.com/3g4uG7PPs3
— Rihanna News (@TeamOfRihanna) April 5, 2021
สำหรับกระแสต่อต้านการเหยียดชาวเอเชียที่สหรัฐฯ ก็ยังคงดำเนินต่อไป นับว่าเป็นอีกหนึ่งการรณรงค์ให้คนตระหนักถึงความเท่าเทียมกัน ต่อจากกระแส Black Lives Matter ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ที่ขยายวงกว้างไปทั่วโลก
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น