CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

จากแม่ค้าสู่การเป็นนักสู้ Rihanna บอกงดถามหาอัลบั้ม ขอต่อต้านความรุนแรงในครอบครัวก่อน

“เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว แม้ว่าเธอไม่เคยเป็นนักร้องให้ฉันเลยยย”

 

 

ในวันนี้ #เหมียวนานะ ขอเชิญชวนทุกคนผายมือต้อนรับอาชีพใหม่ของแม่ Rihanna กันค่ะ เพราะหลังจากที่แม่ประกาศกร้าวไปแล้วว่าแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของ FENTY SKIN กำลังจะมาในเร็วๆ นี้

ล่าสุด แม่ Rihanna ได้ทำการไลฟ์สดบนอินสตาแกรม ประกาศว่าตอนนี้ตัวเองกำลังเป็นนักสู้ที่กำลังพยายามกอบกู้โลกอยู่จ้าาาา

 

 

เมื่อไม่นานมานี้ แม่ Rihanna ของพวกเราได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสนับสนุนการต่อต้านความรุนแรงในครอบครัวนามว่า COVID-19 Safer at Home Order ของ Jack Dorsey ผู้เป็น CEO ของเว็บไซต์ Twitter

เนื่องจากผลสำรวจความรุนแรงในครอบครัวช่วงกักตัว COVID-19 นี้พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ Jack คิดโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่ต้องเผชิญกับความรุนแรงค่ะ

 

 

ซึ่ง Jack ได้ทวิตเมื่อ 2 วันก่อนว่ามูลนิธิ Clara Lionel ของแม่ Rihanna และกองทุน Mayor’s Fund ได้ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือโครงการนี้รวมเป็นเงิน 4.2 ล้านเหรียญ (ประมาณ 137 ล้านบาท)

 

 

และหลังจากที่บริจาคเงินและเข้าร่วมโครงการไปแบบกรุบกริบ

เมื่อวานนี้แม่ Rihanna ก็ไลฟ์สดลงบนอินสตาแกรม เป็นปาร์ตี้ออนไลน์ที่แม่จัดขึ้นในนามว่า FENTY Social Club  โดยจะทำการเชิญแขกรับเชิญและเพื่อนๆ มาร่วมร้องเล่นเต้นกินดื่มกันอย่างสนุกสนานผ่านไลฟ์นี้

 

 

อย่างที่เราทราบกันดีค่ะว่าทุกครั้งที่แม่ Rihanna ไลฟ์สดก็ต้องมีเหล่าแฟนๆ เข้ามาทวงอัลบั้มอยู่เรื่อยไป แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้แม่ตั้งใจเข้ามาเต้น ไม่ได้เข้ามาพูดคุย (คือในไลฟ์นี่เต้นอย่างเดียวจริงๆ พูดแค่ไม่กี่ประโยคเอง)

บวกกับแม่เพิ่งร่วมโครงการ COVID-19 Safer at Home Order ไป แม่เลยประกาศเปลี่ยนอาชีพให้แฟนๆ ได้รับรู้ทันทีค่ะ แม่ Rihanna กล่าวอย่างเกรี้ยวกราดว่า

“ถ้าพวกเธอถามถึงอัลบั้มจากฉันอีกครั้ง ในขณะที่ฉันกำลังพยายามช่วยโลกอยู่ ไม่เหมือนกับประธานาธิบดีของพวกเธอ… แค่นั้นแหละ”

 

 

เอาเป็นว่าตอนนี้ทุกคนเข้าใจตรงกันนะว่าแม่ Rihanna คงไม่ได้ทำอัลบั้มไปอีกสักพักใหญ่เพราะต้องไปกอบกู้โลกอยู่ แต่ถือว่ายกประโยชน์ให้จำเลยไปแล้วกันค่ะ เนื่องจากสิ่งที่แม่ทำมันช่วยเหลือคนอื่นได้เยอะจริงๆ

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ

ที่มา: eonline

Comments

ใส่ความเห็น