เรียกได้ว่างานเข้าแล้วกับ Rihanna แม่ค้าเครื่องสำอางชื่อดัง ที่มีงานอดิเรกเป็นนักร้อง จากกรณีที่เธอไปทวีตเรื่องราวประเด็นที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนที่เกิดขึ้นในประเทศอินเดีย
จนทำให้ทางการของอินเดียต้องออกหมายจับ และส่งเรื่องไปถึงสถานทูตของสหรัฐเพื่อให้ส่งตัวเธอมาขึ้นศาลในประเทศอินเดีย
เรื่องทั้งหมดมันเริ่มต้นมาจากการที่เหล่าชาวนาในประเทศอินเดียหลายพันชีวิต ออกมาประท้วงกันที่แถบชานเมืองเดหลี ติดต่อกันมาเป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว
ซึ่งการประท้วงดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเพื่อต่อต้านการออกกฎหมายการปฏิรูปการเกษตรของรัฐบาลอินเดีย ซึ่งมีเนื้อหาขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน
และแม่ Rihanna เองก็ได้ทำการทวีตแชร์ข่าวการประท้วงนี้จากทาง CNN พร้อมกับแคปชันว่า “ทำไมเราไม่พูดถึงเรื่องนี้กันเลยล่ะ?” พร้อมติดแฮชแท็ก #FarmersProtest
จากทวีตของแม่ Rihanna ที่มีผู้ติดตามในทวิตเตอร์มากกว่า 101 ล้านคน ก็ทำให้ชาวเน็ตหลายคนสนใจเป็นจำนวนมาก มีการกดไลก์กว่า 917,600 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 314,600 ครั้งเลยทีเดียว
ทวีตที่เป็นประเด็น
why aren’t we talking about this?! #FarmersProtest https://t.co/obmIlXhK9S
— Rihanna (@rihanna) February 2, 2021
จากการกระทำดังกล่าว ก็มีกระแสคอมเมนต์แยกออกมาเป็นสองฝ่าย ฝ่ายที่สนับสนุนม็อบชาวนาในอินเดียก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่คนดังระดับโลกออกมาพูดถึงประเด็นนี้ทำให้ผู้คนสนใจ
แต่อีกส่วนหนึ่งก็ไม่พอใจ บอกว่าไม่ต้องเข้ามายุ่งเรื่องของผู้คนในประเทศอื่น จนถึงกับตั้งม็อบประท้วง เรียกร้องให้จับเธอมาดำเนินคดี แล้วเอารูปของเธอมาเผาโชว์เลยทีเดียว
ทางด้านรัฐบาลของอินเดียเองก็มีการออกแถลงการณ์ โดยบอกว่าการกระทำของแม่ค้าคนนี้ “ทำให้เกิดความคิดเห็นในประเด็นนี้อย่างรุนแรงและกว้างขวาง โดยที่ไม่ได้มีความเข้าใจถึงปัญหาอย่างแท้จริง และไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกด้วย”
กลายเป็นการปลุกกระแสให้ผู้คนออกมาชุมนุมต่อต้าน และกลุ่มผู้ชุมนุมก็เดินทางไปรวมตัวกันที่หน้าสถานทูตสหรัฐ ในประเทศอินเดีย เพื่อเรียกร้องให้จับตัว Rihanna และส่งตัวมารับโทษที่อินเดีย
แต่ประเด็นคือ Rihanna นั้นไม่ได้เป็นพลเมืองของสหรัฐอเมริกา และเธอถือสัญชาติว่าเป็นชาว Barbados (บาร์เบโดส) เพราะฉะนั้นต่อให้ม็อบไปเรียกร้องที่หน้าสถานทูตสหรัฐ ก็ไม่สามารถทำตามข้อเรียกร้องได้
แหม่ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ก็คงต้องติดตามกันต่อไปแล้วล่ะครับ…
เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว
ที่มา : cnn, theguardian, bbc, cgtn
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น