ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวเกี่ยวกับพ่อหนุ่มรายหนึ่งที่ไปร่อนทองในคลอง แล้วก็เจอทองจริงๆ จนทำให้เริ่มมีคนไปทำข่าวพร้อมกับชาวบ้านในพื้นที่แห่ตามกันไปร่อนทองเป็นจำนวนมาก
เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องของนายกรภัทร พรของแม่ วัย 33 ปี ผู้ที่ลงโพสต์เรื่องราวเจอทองในคลองชลประทาน ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี เมื่อนำไปให้ร้านทองไปตรวจก็ยืนยันว่าเป็นทองจริงแท้แน่นอน
ส่งผลทำให้ชาวบ้านทั้งในจังหวัดราชบุรีและจังหวัดใกล้เคียงแห่ตามมาร่อนหาทองกันยกใหญ่ ถึงขั้นภาครัฐต้องมาตรวจสอบและสั่งปิดพื้นที่ห้ามไม่ให้ชาวบ้านร่อนทอง เกรงว่าจะก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นมา
แต่ว่าในวันที่ 27 มกราคม 2564 ในรายการคับข่าวครบประเด็นระบุว่า นายกรภัทร ชายต้นเรื่องเจอทองในคลอง ให้การยอมรับแล้วว่าเรื่องทั้งหมดตนเป็นคนกุเรื่องขึ้นมา ทองที่นำมาโชว์ก็เป็นทองที่ได้มาจากในคลองจริงเมื่อวันที่ 9 มกราคม
ในวันนั้นเขาลงไปหาหอยที่คลองดังกล่าวแต่เหลือบไปเห็นจี้ทองคำ เมื่อหยิบมาดูก็เป็นทองจริงๆ เลยตัดสินใจกลับบ้านนำเครื่องตรวจโลหะมาค้นเพิ่ม จนเจอเศษทองรูปพรรณอีกหลายเม็ดจึงเก็บกลับมาที่บ้าน
เขาถ่ายรูปและลงโพสต์ในโซเชียลเมื่อวันที่ 15 มกราคม ตามที่เห็นในข่าวจนชาวบ้านแห่ตามไปร่อนทองที่คลอง รวมถึงอ้างว่ามีผู้สื่อข่าวสร้างสตอรี่ให้ แต่สุดท้ายเบี้ยวไม่พาไปออกรายการ
ส่วนที่ชาวบ้านไปร่อนทองแล้วเจอพระเครื่องก็ยอมรับว่า เขาเป็นคนที่โยนพระกับเหรียญเก่าลงไปในคลองเอง หวังว่าเมื่อชาวบ้านเจอจะได้เชื่อและมีน้ำหนักกับเรื่องที่โพสต์ไป
ทั้งนี้ด้วยความสำนึกผิดจึงตัดสินใจออกมายอมรับความจริง ขอโทษชาวราชบุรีที่แห่ไปร่อนทอง และขอโทษส่วนราชการทุกฝ่ายที่ทำให้เดือดร้อน ไม่ได้เจตนาหลอกลวงใครแต่เป็นเพราะ ‘รู้เท่าไม่ถึงการณ์’
ด้านนายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอเมืองราชบุรี ระบุว่าได้รับคำสารภาพจากคนต้นเรื่องแล้วว่าไม่จริงทั้งหมด มีจริงบ้างเท็จบ้างผสมกันไปเป็นความคึกคะนอง
แต่ถ้าจะเข้าข่ายข้อมูลเท็จตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ต้องดูรายละเอียดและเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะตรวจสอบเรื่องนี้
หากผู้ใดเสียหายก็ให้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี ส่วนตัวก็ไม่อยากให้ใครทำเพราะวุ่นวายกันหมด ยิ่งช่วงไม่ปกติแบบนี้เกรงจะเกิดการแพร่ระบาด แต่เมื่อรับสารภาพแล้วก็จะได้รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จ
ที่มา: mcot
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น