กำลังเป็นเรื่องราวที่เดือดปุดๆ ไม่แพ้น้ำซุปร้อนในหม้อชาบูกันเลยทีเดียว เพราะหลังจากที่มีการให้รีวิวจากลูกค้าไม่แนะนำให้ไปใช้บริการร้านชาบูแห่งหนึ่งย่านพระรามเก้า 43 เนื่องจากถูกข่มขู่จากทางร้านว่าจะคิดเงินเพิ่ม จากการที่ทานเยอะแล้วร้านจะไม่ได้กำไร
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3182644005118368&set=a.453772131338916&type=3&theater
ลูกค้าได้ทิ้งรีวิวให้กับทางร้านไว้ว่า…
“เสียความรู้สึก เพิ่งเคยเจอร้านบุฟเฟ่ที่เจ้าของร้านขู่จะคิดเงินเพิ่ม เพราะ อ้าวว่าเรากินเยอะเกินไปจนร้านไม่ได้กำไรจากเรา ถ้ามีความคิดแบบนี้อย่าเปิดร้านบุฟเฟต์ดีกว่าครับ”
https://www.facebook.com/nutmaethe/posts/3182368031812632
ทางร้านจึงแสดงความคิดเกี่ยวกับรีวิวดังกล่าว…
“ทานบุฟเฟต์แปลว่าทานหลากหลายไม่ใช่ทานแต่เนื้อ กุ้ง ไม่ทานอย่างอื่นเลยแบบนี้เรียกว่าทานเนื้อและกุ้งลวกไม่ใช่ชาบู คุณลองทำธุรกิจแล้วหากเจอพฤติกรรมแบบนี้มาตลอด ไม่ใช่เป็นครั้งคราว
ถ้าเป็นครั้งคราวเรารับได้แต่ทานแบบไม่จำกัดเวลา เนื้อขั้นต่ำ 6-12 จาน จานขนาด12นิ้ว เราทำธุรกิจ ถ้าคุณคิดว่าไม่ยุติธรรมกับคุณและมันยุติธรรมกับเราเหรอคะ ถ้ายังโพสให้ร้านเสียหายเราข้อใช้กฏหมายตัดสินแล้วกันนะคะ”
แน่นอนว่าหลังจากที่ทางร้านตอบกลับความคิดเห็นของลูกค้าไปแล้ว ก็ยิ่งเกิดความถามจากชาวเน็ตท่านอื่นๆ อีกมากมายตามมา (ทัวร์เริ่มลง) ตัวอย่างเช่น…
“งั้นถ้าลูกค้ากินแต่ผักนี่ ลดราคาด้วยรึเปล่าครับ”
“เอาจริงดิ แล้วลูกค้าคนอื่นที่กินน้อยๆ คุณเลยลดราคาไหม ถ้าไม่ ก็ไม่ควรใช้ตรรกะแบบนี้นะครับ”
“แบบนี้จะทำ บุฟเฟต์ทำไมครับ มันเป็น agreements ที่จ่ายเท่านี้ กินเท่าไหร่ก็ได้ ถ้าจำกัดจาน ทำไมไม่ทำขายแยก ใช่เรื่องหรอ”
“เป็นการตอบที่พังพินาศมากๆ”
“บุฟเฟต์ คือการทานได้ไม่จำกัด ในราคาที่ตั้งไว้ ขอไม่ทานกินที่นี่ดีกว่าครับ เคยกินมาทุกที่ หลากหลายราคา ทั้งภัตตาคาร ซูชิเกรด A บุฟเฟต์พรีเมี่ยม หลากหลาย ไม่เคยเจอแบบนี้”
เมื่อเริ่มมีทัวร์ไปลงเยอะ เพจร้านจึงแถลงเพิ่มเติม
“ขอชี้แจง จากเจ้าของร้านที่เป็นคนเดินเข้าไปขออนุญาตชี้แจงเรื่องขอปรับราคาสำหรับลูกค้าที่ทานแต่เฉพาะเนื้อ อย่างลูกค้าท่านนี้ คื่อลูกค้าท่านนี้มาบ่อยค่ะ มาเป็นระยะเวลา 3 ปีกว่าแล้ว
ช่วงไหนมาบ่อยก็เดือนละ 2 ครั้งเป็นอย่างต่ำ เราดีใจที่คุณเค้ามาอุดหนุนอยู่เป็นประจำ และเชื่อว่าที่คุณเค้ามาอุดหนุนก็ด้วยสิ่งที่เราทำสิ่งที่เราขายบริการร้านชาบู เช่น วัตถุดิบ ความสะอาด ความอร่อยและบริการ จึงทำให้ลูกค้าท่านนี้มาเป็นลูกค้าประจำ
แต่ด้วยความชอบที่จะรับประทานของลูกค้าคือเนื้อล้วน เราจึงขออนุญาตแจ้งว่าถ้าลูกค้าต้องการทานแบบเดิมคือทานแบบไม่อั๋นเช่นเดิมตลอดมาที่เราให้บริการ เรายินดี
แต่…คราวหน้าหลังจากวันนี้ เรามีนโนบายขอขึ้นราคาบุฟเฟ่เนื้อแบบไม่อั้นทานเนื้ออย่างเดียวหรือรวมกุ้งล้วนอย่างเดียวเป็นราคา 549 หรือเพิ่มจากเดิม 200 บาท และไม่จำกัดเวลาเช่นเดิม
วันนั้นที่ลูกค้ามาทาน เราเดินเข้าไปชี้แจง และชี้แจงว่าเราไม่สามารถขายในราคาเดิมได้เพราะอะไรให้ลูกค้าเข้าใจ ซึ่งเราก็ไม่ได้มีการข่มขู่ หรือเก็บเงินเพิ่มเลย
เราก็ให้ลูกค้านั่งทานปกติ สั่งปกติต่อไป ซึ่งเราไม่ทราบว่าลูกค้าไม่เข้าใจหรือมีคำถามอื่นๆ ในใจอีกไหมแต่ลูกค้าไม่ถามแต่มีการรีวิวที่อยู่ข้างต้น เราเข้าใจว่าเป็นสิทธิของลูกค้าว่าจะทานอะไรมันก็อยู่ในราคาบุฟเฟ่แล้วเราเข้าใจดีและบริการด้วยดีมาตลอด
แต่ในวันนั้นเราก็แค่ขออนุญาตแจ้งการปรับเปลี่ยนราคาเท่านั้น ก็แล้วแต่ทางลูกค้าจะพิจารณาว่าครั้งต่อไปจะมาทานหรือไม่ ในคุณภาพของอาหาร ความสะอาดและงานบริการของร้านเรา
สุดท้ายที่แอดมินเขียนไปว่า ถ้ายังโพสให้ร้านเสียหายจะพึ่งพากฏหมายนั้น ก็ด้วยแอดมินกลัวว่าลูกค้าจะโพสในพื้นที่สาธารณะทำให้ร้านเสียหายและทำให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดร้านได้ ซึ่งจะนำมาซึ่งการเสียชื่อเสียงของร้านที่เราตั้งใจในการให้บริการตลอดมาไม่ได้มีเจตนานำกฏหมาย มาขู่ลูกค้าแต่อย่างใด จึงเรียนชี้แจงมาให้ทราบ”
แต่ไม่ว่าทางร้านจะชี้แจงอย่างไร ชาวเน็ตก็ยังคงแสดงความคิดเห็นไปในเชิงไม่เห็นด้วยกับทางร้านอยู่ดี…
“ลูกค้าแดกเยอะ นั่งจับผิด ลูกค้าแดกน้อย ยิ้มๆ กำไรโว้ย ทีหลังควรเดินไปบอกบ้างนะว่าคุณลูกค้าถ้าทานน้อยขนาดนี้คิดแค่ 50 บาทพอนะคะ อยากจะเปิดบุฟเฟต์ แต่อยากได้ราคาแบบตามสั่ง เหย๊ดแหม๋มมมมมมมม”
“อีกหน่อยลูกค้าก็ไม่กินแต่เนื้อแล้วครับ เพราะจะไม่มีลูกค้าเลย”
“เจ้าของตลกดีนะ งกและจุกจิกคิดเล็กคิดน้อยซะจนแอบทำให้คิดถึงและระแวงเรื่องคุณภาพอาหารเลย ไม่เข้าใจคำว่ากำไรแบบถัวเฉลี่ย นั่งจับผิดลูกค้า แล้วมาแค่เดือนละ 1-2 ครั้ง กลัวอ่ะพูดตรงๆ ไม่รู้ว่ามีลูกค้าอีกกี่คนที่โดนทางร้านจับตามองอยู่“
“บุฟเฟต์ก็คือบุฟเฟต์ครับ มีคนทานมากทานน้อยทุกอย่างถัวเฉลี่ยในกรณีกลับกันถ้ามีคนทานน้อยคุณเจ้าของร้านจะเดินไปบอกไหมครับว่าขอลดราคาให้เพราะคุณลูกค้าทานน้อยเกินไป จะมีไหมครับ”
“ถ้าเป็นการเปลี่ยนเรทราคาที่มีผลต่อลูกค้าทุกคน (เหมือนที่บุฟเฟ่ต์บางร้าน กุ้ง เนื้อ ปู จะแยกเรทกับบุฟเฟ่ต์หมู ไก่ ลูกชิ้น) อันนี้ก็ถือว่าเป็นการปรับเรทราคาตามปกติ คือมีการแบ่งโซนอาหาร ตามเรทราคา
แต่ถ้าการจ่ายเพิ่ม มีผลเฉพาะลูกค้าบางท่านที่ทางร้านเห็นว่ามาทานแต่เนื้อสัตว์บ่อยๆเท่านั้น ผมแนะนำให้ทางร้านขายเป็นจานๆ แทนที่จะเปิดเป็นบุฟเฟ่ต์นะครับ เพราะเท่ากับทางร้านไม่ได้เข้าใจธุรกิจบุฟเฟ่ต์เลย”
ประเด็นดังกล่าวยังคงได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเพิ่มเติมมากขึ้นเรื่อยๆ สามารถไปตามกันต่อได้ ที่นี่ เลยจ้า
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น