ลึกลงไปใต้ผืนน้ำของท้องทะเลที่กว้างใหญ่บริเวณเกาะซาร์ดิเนียของประเทศอิตาลี ทีมนักสำรวจใต้น้ำได้ทำการค้นพบฉลามสุดแปลกตัวหนึ่ง ซึ่งมีเอกลักษณ์ต่างออกไปจากฉลามทั่วไปอย่างมาก
โดยเจ้าฉลามที่ถูกค้นพบในครั้งนี้ เป็นฉลามเพศเมียขนาดเล็กในตระกูลฉลามกบปากดำ (Galeus melastomus) ซึ่งปกติจะพบได้บ่อยๆ ในพื้นที่
อย่างไรก็ตามต่างไปจากฉลามตัวอื่นๆ ในสายพันธุ์ ฉลามเพศเมียที่ถูกพบในครั้งนี้กลับอยู่ในสภาพผิดปกติเป็นอย่างมาก โดยมันไม่มีทั้งฟัน และผิวหนัง นำมาซึ่งร่างกายสีขาวที่แทบจะมองทะลุเป็นอวัยวะภายในบางส่วนได้
ฉลามตัวนี้ถูกรายงานว่าติดมาในอวนของนักจับปลาเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2019 โดยมันสร้างความแปลกใจให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
เพราะตามปกติผิวหนังของฉลาม ถือว่ามีความสำคัญต่อการเอาชีวิตรอดของสัตว์ขนาดนี้มาก ทั้งในการป้องกันตัวจากสภาพแวดล้อมและจากเชื้อโรคต่างๆ
ดังนั้นเจ้าฉลามตัวยนี้จึงถูกส่งตัวไปให้ทีมผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยซาร์ดิเนีย ตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไปทันที

อ้างอิงจากรายงานการค้นพบ ในวารสาร Fish Biology เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าความผิดปกติของฉลามตัวนี้ เป็นไปได้ว่าจะเกิดจาก
ผลกระทบของการกระทำของมนุษย์ อย่าง มลพิษ ภาวะโลกร้อน และอากาศเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน ซึ่งทำให้เกิดการปนเปื้อน และความเป็นกรดที่สูงขึ้นของน้ำทะเล
หรือไม่ก็อาจเป็นเพียงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติระหว่างการพัฒนาตัวอ่อนของสัตว์เอง

ไม่ว่าจะเป็นทางไหน ตามปกติแล้วฉลามที่ไม่มีทั้งผิวและฟันเช่นนี้ก็มักจะตายไปตั้งแต่ตัวเล็กๆ ซึ่งทำให้การค้นพบฉลามไร้ผิวเอาตัวรอดมาได้นานขนาดนี้นับว่าเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก
ซึ่งสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสามารถในการเอาตัวรอดนี้ก็คือความโชคดีเล็กๆ ในโชคร้ายของเจ้าฉลามไร้ผิวเอง ที่มันเกิดมาในตระกูลฉลามกบปากดำที่มีความสามารถในการกลืนเหยื่อทั้งตัวโดยไม่ต้องใช้ฟัน

นี่นับว่าเป็นการค้นพบเล็กๆ ที่แฝงความน่ากลัวเอาไว้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะหากฉลามที่พบไม่มีผิวเพราะภาวะโลกร้อนจริงๆ มันจะเป็นปลาตัวแรกที่ได้รับผลกระทบจากโลกร้อนกับระบบโครงสร้างผิวหนังเลย
และมันก็ไม่แน่เหมือนกันว่าด้วยภาวะมลพิษโลกในปัจจุบัน เราก็อาจจะต้องพบกับปลาแปลกๆ ที่มีผิวหรือเกล็ดเช่นนี้อีกหลายครั้งในอนาคตก็เป็นได้
ที่มา iflscience, onlinelibrary, dailymail และ standard
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น