บางครั้งเจ้านายหรือผู้ที่มีตำแหน่งที่สูงกว่ามักจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับพนักงานในบริษัทเสมอ แต่เมื่อได้รับของขวัญจากผู้ใหญ่ก็หวังว่ามันจะเป็นสิ่งดีๆ ใช่มั้ยล่ะ? แต่มันไม่ใช่สำหรับบริษัทนี้นี่สิ
เบาะรองนั่งสุดล้ำ ของขวัญปีใหม่จากเจ้านาย
เว็บไซต์ China Press รายงานว่าเจ้านายจากบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ได้มอบของขวัญปีใหม่ให้กับพนักงานที่น่ารักทุกคน เป็นเบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพมีฟังก์ชั่นสุดล้ำแบบที่คาดไม่ถึง… เพราะมันคืออุปกรณ์สอดส่องพฤติกรรมพนักงานแทนนี่แหละ
ในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หนึ่งในพนักงานของบริษัทดังกล่าวใช้พื้นที่โซเชียลมีเดียเพื่อแจ้งข่าวให้กับสาธารณชนได้รับทราบ
เธอกล่าวว่าความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานกับเจ้านายที่บริษัทดูเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี เพราะเจ้านายมักจะเป็นชอบเทคโนโลยีนวัตกรรมอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ และเขามักจะหาซื้อของใหม่เข้าบริษัทเป็นประจำด้วย
ข้อมูลวิเคราะห์จากเบาะรองนั่ง
เมื่อเจ้านายมอบของขวัญปีใหม่ให้กับพนักงานทุกคน เป็นตัวเบาะรองนั่งไฮเทคช่วงเดือนพฤศจิกายน เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลสิ้นปี ไม่มีใครรู้สึกเอะใจหรือแปลกใจอะไรมากนัก…
เจ้าตัวเบาะรองนั่งดังกล่าวมันคือ ‘เบาะรองนั่งเพื่อสุขภาพ‘ มาพร้อมกับตัววัดอัตราเต้นของหัวใจ การหายใจ และการนั่งผิดท่า และการนั่งอยู่บนเบาะรองดังกล่าวมันก็จะส่งข้อมูลแจ้งเตือนมาที่โทรศัพท์เพื่อติดตามผลสุขภาพได้
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณนั่งนานเกินไปหรือนั่งผิดท่าที่อาจทำให้รู้สึกเมื่อยล้าได้ คุณก็จะได้รับแจ้งเตือนจากแอพเบาะรองนั่งให้มีการปรับท่าหรือลุกไปทำอย่างอื่นบ้าง
ตอนแรกมันก็เหมือนจะไม่เป็นเรื่องใหญ่ จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อสาวพนักงานคนดังกล่าวลุกไปส่วนห้องครัว เพื่อนร่วมงานฝ่ายบุคคลก็เดินตรงดิ่งมาตามหาตัวเธอทันที
เมื่อเจอตัวกันปุ๊บก็ได้รับคำถามจากเพื่อนว่า “ทำไมเธอถึงไม่ค่อยอยู่โต๊ะช่วง 10 โมงถึง 10 โมงครึ่ง? ระวังตัวหน่อยนะ เจ้านายอาจจะหักเงินเดือนเธอได้”
อย่างไรก็ดี เพื่อนร่วมงานของเธออ้างว่าเป็นการหยอกเล่น แต่ด้านชาวเน็ตกลับรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นักเพราะเหมือนกับว่าเจ้านายกำลังแอบจับตาดูอยู่ตลอด
ด้วยตัวเบาะที่ทำหน้าที่เป็นตัวตรวจสอบอยู่เสมอ มันก็เป็นที่ชัดเจนว่าข้อมูลทั้งหมดจากตัวเบาะก็จะส่งตรงไปที่เจ้านายหรือฝ่ายบุคคลอยู่ตลอดเวลา

ชาวเน็ตแตกออกเป็นสองฝั่ง บ้างเห็นด้วยและบ้างก็ไม่เห็นด้วย
กระแสตอบรับจากโพสต์ดังกล่าว ทำให้ชาวเน็ตหลายคนมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในกรณีที่เจ้านายทำการติดตามลูกน้องหรือพนักงานอยู่ตลอด
บางคนเห็นด้วยว่ามันเป็นการกระทำที่เกินขอบเขตไปมาก รับไม่ได้ที่เจ้านายจะต้องมาจับตาดูลูกน้องอยู่ตลอดแบบนี้…
‘ฉันรู้สึกว่าข้อมูลจากเบาะรองนั่งควรเป็นข้อมูลส่วนบุคคลนะ เจ้านายไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้ข้อมูลเหล่านี้คอยสอดส่องพนักงาน’
‘ไปทำงานแบบนี้เหมือนไปเข้าคุกเลย ไม่มีอิสรภาพใดๆ ทั้งสิ้น’
อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตส่วนใหญ่ก็ชี้ไปที่ประเด็นว่าเธอควรประเมินตัวเองใหม่ เกี่ยวกับจริยธรรมและประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเอง จะต้องหลบซ่อนทำไมถ้าทำงานดีอยู่แล้ว?
‘แล้วเจ้านายหักเงินเดือนเธอรึยัง? ถ้ายังก็อย่าเอามาพูดให้เป็นประเด็น คนทำบริษัทไม่ได้ต้องการเงินหรอกเหรอ? คนตำแหน่งสูงกว่าเธอมีงานที่ต้องทำเยอะแยะนะ’
‘ไม่น่าเป็นปัญหาเลย มันจะเป็นปัญหาก็ต่อเมื่อทำอะไรผิดมา เช่นถ้าเธอลุกจากโต๊ะไปทำเรื่องส่วนตัวอื่นๆ แล้วเพื่อนร่วมงานหาตัวไม่เจอ เธอจะให้พวกเขาทำยังไง? พวกเขาก็แค่ตักเตือนคุณ แค่นี้เธอก็รู้สึกผิดแล้ว’
‘ก่อนอื่นเลย เธอควรประเมินตัวเองนะ แน่นอนว่าเธอไม่ใช่ฝ่ายถูก ถ้าเธอมีข้อคิดเห็นอะไรก็ควรไปบอกเจ้านายเธอซะ เธอมีสิทธิที่จะพูดกับหัวหน้า แต่สิทธิที่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอยู่ที่เจ้านาย
ถ้าหากเธอรู้สึกว่ามีปัญหา เธอควรลาออก แต่ถ้าเธอคิดว่าเจ้านายล้ำเส้น เธอควรใช้ข้อกฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิส่วนบุคคลของตัวเอง บ่นแบบนี้มันไร้ประโยชน์’
เอาล่ะครับ… มันก็มีทั้งมุมมองของลูกจ้างและนายจ้าง ประเด็นนี้คุณคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง?
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ที่มา: 163.com, chinapress
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น