สำหรับใครที่ ‘ไม่มีลูก’ ก็อาจเคยเกิดความคิดที่อยากจะ ‘รับอุปถัมภ์’ เด็กสักคน เพื่อเลี้ยงดูเขาให้กลายเป็นคนดี มีอนาคตที่สดใส
แต่ความตั้งใจนั้นก็อาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการที่เราจะรับเด็กสักคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ‘ไม่ต่างกับลูกแท้ๆ’ นั่นเท่ากับว่าสิ่งที่จะตามมาก็คือความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้น
ทว่าสำหรับหญิงชราชาวจีนคนนี้ เธอกลับมองว่า “ตนเองพร้อมที่จะมอบอนาคตให้แก่เด็กด้อยโอกาสทุกคนอย่างเต็มที่” และนั่นจึงทำให้เธอตัดสินใจอุปถัมภ์เด็กๆ เหล่านั้นมาแล้วถึง 45 คนด้วยกัน…
หญิงชราผู้เป็น ‘แม่’ ของลูกๆ ทั้ง 45 คน
Kong Zhenlan คือชื่อของหญิงชาวจีนวัย 71 ปี ผู้ใช้ชีวิตอยู่ในมณฑลชานซี โดยตลอด 47 ปีที่ผ่านมานั้น เธอได้รับอุปถัมภ์ ‘เด็กกำพร้า’ มาแล้วถึง 45 คนด้วยกัน
Kong เล่าว่า เธอตัดสินใจรับอุปถัมภ์เด็กคนแรกในตอนที่อายุเพียงแค่ 24 ปีเท่านั้น เธอได้บังเอิญไปเจอกับเด็กกำพร้าที่มีอาการ ‘ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ’
ตอนนั้นเองที่เธอตัดสินใจจะรับเด็กคนดังกล่าวเข้ามาอยู่ในความดูแล เติมเต็มสิ่งที่เรียกว่า ‘ครอบครัว’ และกลายเป็นแม่ผู้คอยรับผิดชอบชีวิตของเด็กคนหนึ่งนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
พอวันเวลาผ่านไป จาก 1 ก็กลายเป็น 2 แล้วจาก 2 ก็กลายเป็น 3 จนในตอนนี้ผ่านมา 47 ปี เธอก็มีลูกๆ ที่อยู่ภายใต้การดูแลถึง 45 คนเข้าไปแล้ว
ปัจจุบัน ลูกคนโตของเธอนั้นอายุ 45 ปี ในขณะที่คนเล็กสุดที่เธอเพิ่งรับมานั้นอายุเพียง 9 เดือนเท่านั้นเอง
การเป็นแม่ของเด็กๆ จำนวนมาก กับความรับผิดชอบอันหนักอึ้ง
แน่นอนว่าการต้องรับผิดชอบชีวิตของลูกๆ ทั้ง 45 คนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ซึ่งเธอได้ให้สัมภาษณ์ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเกือบ 50 ปี เธอจะได้นอนหลับแค่วันละ 2 ชั่วโมง
ในแต่ละวัน Kong จะต้องพาเด็กเข้านอน จัดการงานบ้านส่วนต่างๆ ให้เรียบร้อย ก่อนที่จะล้มตัวหลับตอนประมาณเที่ยงคืน แล้วตื่นขึ้นมาตอนตี 2 เพื่อดูว่าเด็กๆ นอนดิ้นหรือเปล่า ห่มผ้าเอาไว้อยู่มั้ย
“สิ่งที่ฉันทำกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว และฉันมองว่าการได้หลับเพียง 2 ชั่วโมงนั้นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย เมื่อมันต้องแลกกับการที่จะทำให้ลูกๆ โตมามีสุขภาพแข็งแรง และมีความสุขกับชีวิต” เธอกล่าว
นอกจากพวกเขาจะเคยเป็นเด็กกำพร้ามาก่อนแล้ว ลูกๆ ส่วนใหญ่ของเธอยังมีความพิการหรือโรคประจำตัวมาตั้งแต่เกิด
นอกเหนือจากเรื่องของเวลานอนหลับอันน้อยนิดแล้ว เรื่องของค่าใช้จ่ายเองก็อาจถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลลูกๆ ของเธอ
แต่ถึงอย่างนั้น หญิงชราก็ไม่เคยมองว่าความยากจนนั้นคืออุปสรรคในการเลี้ยงดูลูกๆ ให้โตมามีชีวิตที่ดีได้
ค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งนั้นเธอจะได้รับมาจากลูกๆ ที่มีงานทำแล้ว และส่งเงินมาช่วยเหลือน้องๆ ที่ยังเด็กอยู่ โดยเธอก็จะนำเงินทั้งหมดนั้นไปใช้สำหรับเป็นค่าอาหาร ค่านม ของใช้ต่างๆ หรือแม้แต่ค่าเล่าเรียนให้แก่เด็กๆ
และถึงแม้ว่าบางวัน จะไม่มีอาหารเหลือให้เธอกินเลย เธอก็ไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะเธอโอเคกับการไปคุ้ยหาเศษอาหารที่พอจะกินได้ตามถังขยะ แลกกับการให้ลูกๆ ทุกคนได้อิ่มท้อง
“การศึกษาคือกุญแจแห่งความสำเร็จ”
นั่นคือหนึ่งในแนวคิดที่เธอสอนลูกๆ ของตัวเองอยู่เสมอ เธอมองว่าการศึกษาจะสามารถทำให้พวกเขาหลุดพ้นจากความยากจนไปได้
“ฉันพยายามผลักดันให้พวกเขาอ่านหนังสือ ตั้งใจเรียนในห้อง โดยฉันบอกพวกเขาว่าการศึกษาคือหน้าที่ของลูกๆ และมันคือโอกาสเดียวที่จะทำให้พวกเขาสามารถทำบางสิ่งบางอย่างด้วยตัวเองหลังจากนั้นได้” เธอกล่าว
คำสอนนั้นของเธอก็อาจถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะมันทำให้ลูกๆ ของเธอสามารถเรียนจบมัธยมด้วยคะแนนที่ดี บางคนถึงขั้นได้ไปเรียนต่อมหาลัย กลายเป็นหมอ เป็นทนาย หรือคุณครู
“แม่ให้กำเนิดลูกทุกคนขึ้นมา ทุกคนคือลูกแม่”
นั่นคือคำตอบที่เธอพูดกับลูกๆ ของเธอทุกครั้งเวลาที่พวกเขาถามว่า “แม่ครับ แม่ไปเจอผมที่ไหน?”
มันอาจดูเหมือนเป็นคำพูดสั้นๆ ทั่วไป แต่คำตอบนั้นกลับแสนอบอุ่นหัวใจเสียเหลือเกิน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงถูกเรียกว่า ‘แม่พระ’ มาจนถึงปัจจุบัน
เรื่องราวของเธอที่เคยถูกถ่ายทอด สมัยที่เธอยังมีลูกแค่ 44 คน
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ที่มา: Oddity Central , China Daily , Asia News
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น