กลายเป็นข่าวการค้นพบครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งของอียิปต์ไปแล้ว เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 20189 ที่ผ่านมา กระทรวงโบราณคดีแห่งอียิปต์ได้มีการออกมาประกาศการค้นพบ รูปสลักขนาดใหญ่ของเทพฮอรัส ภายในแหล่งโบราณคดีที่เมืองลักซอร์
รูปสลักที่เห็น ถูกพบภายในซากวิหารโบราณ ซึ่งถูกสร้างขึ้นจากน้ำมือของฟาโรห์แอเมนโฮเทปที่ 3 ผู้ซึ่งเคยครองราชย์ในช่วง 1380–1350 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยมันถูกทำขึ้นจากหินแกรนิตสีดำ ซึ่งมีขนาดความสูงถึง 1.85 เมตร แม้ตัวรูปสลักจะไม่สมบูรณ์
การค้นพบในครั้งนี้ เกิดขึ้นด้วยฝีมือของนักโบราณคดีร่วมจากประเทศเยอรมนีและอียิปต์ ในระหว่างการดำเนินการบูรณะระยะยาวของวิหาร ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ในปี 1998 และมีเป้าหมายในการสร้างวิหารขึ้นมาใหม่ให้เหมือนที่เคยเป็นในอดีตอีกที
ทีมนักโบราณคดีได้ทำการค้นพบรูปสลักเทพขนาดใหญ่ ในระหว่างการทำงาน โดยนอกจากส่วนแขนและขาที่หายไป ตัวรูปสลักจะถือว่ามีความสมบูรณ์เป็นอย่างมาก จนสามารถเห็นรายละเอียดของส่วนหัวเทพฮอรัสได้อย่างชัดเจน แม้แต่ส่วนจะงอยปากที่ตามปกติจะบอบบางหักออกได้ง่าย
อ้างอิงจากสำนักข่าวต่างประเทศ เทพฮอรัสซึ่งถูกให้เป็นต้นแบบของรูปสลักที่พบ นับว่าเป็นเทพเจ้าที่สำคัญมากในหมู่เทพของอียิปต์ โดยท่านมีลักษณะเด่นอยู่ที่ศีรษะที่เป็นนกเหยี่ยว และถูกยกย่องจากคนในอดีตให้เป็นผู้พิทักษ์ดินแดนแห่งอียิปต์เลย
ดังนั้น หากนำรูปสลักดังกล่าวไป ศึกษาอย่างละเอียด นักโบราณคดีก็เชื่อว่ารูปสลักนี้ จะให้ข้อมูลที่สำคัญหรือน่าสนใจเกี่ยวกับ งานศิลปะในด้านการทำรูปสลักของเทพในสมัยอียิปต์โบราณได้ไม่ยาก
“รูปสลัก เทพฮอรัสที่เพิ่งถูกค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ เรียกได้ว่ามีคุณค่าเป็นอย่างมาก ทั้งในทางศิลปะ วิทยาศาสตร์ และโบราณคดีเลยก็ว่าได้” คุณ Horig Sorosyan ผู้นำทีมนักวิทยาศาสตร์เยอรมนี-อียิปต์กล่าว
และก็แน่นอนว่าในปัจจุบันเอง ทีมนักโบราณคดีเองก็ยังคงทำการสำรวจวิหารแห่งนี้ต่อไปกันอยู่ โดยพวกเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะพบส่วนขาและแขนที่หายไปในเร็วๆ นี้ เพื่อที่ในอนาคต พวกเขาจะสามารถนำสิ่งที่พบไปซ่อมแซมรูปสลักให้มีสภาพดังเดิมต่อไป
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น