ในตอนนี้บนโลกอินเทอร์เน็ตทั่วโลกกำลังเป็นประเด็นร้อนกับแคมเปญ #StopHateForProfit แคมเปญที่ทำให้สื่อโซเชียลอย่างเฟซบุ๊ก อินสตาแกรมและทวิตเตอร์ ถูกแบนการซื้อโฆษณาจากบริษัทเจ้าใหญ่ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น แคมเปญนี้ยังมีดารามากมายออกมาร่วมสนับสนุนด้วยการหยุดการเคลื่อนไหวบน Facebook และ Instagram เป็นเวลา 24 ชั่วโมงอีกด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น…
Robert Downey Jr.
It's time to stop hate, bigotry, and disinformation. Freeze Instagram today with me. #StopHateForProfit https://t.co/FizM4kFT7Q pic.twitter.com/HydzB5wELv
— Robert Downey Jr (@RobertDowneyJr) September 16, 2020
Mark Ruffalo
Facebook makes billions in advertising dollars while allowing hate to thrive on its platform. It’s time to hold them accountable for its inaction. Today, I am “freezing” my Instagram account for 24 hours. Join me and tell Facebook to #StopHateForProfit https://t.co/T2x3foDRWV pic.twitter.com/1PlxsBTgTO
— Mark Ruffalo (@MarkRuffalo) September 16, 2020
Jennifer Lawrence
Facebook ignores hate & disinformation on their site. This is not an “operational mistake.” It is a deliberate decision to put profits over people and democracy.
Tell Facebook to #StopHateForProfit. https://t.co/7TSovLMug2 pic.twitter.com/lJts6Ampgp
— Jennifer Lawrence – Represent.Us (@JLawrence_RepUs) September 14, 2020
Kim Kardashian West
In support of the #stophateforprofit movement, @Skims will be going dark on our brand Instagram and Facebook accounts tomorrow. We will also be pushing the launch of our new Maternity collection by a day to Thursday September 17 at 9am.
— Kim Kardashian West (@KimKardashian) September 15, 2020
Katy Perry
Katy Perry will freeze her Instagram and Facebook accounts tomorrow in support to the #StopHateForProfit movement. pic.twitter.com/xZvZmkJPv8
— KATY PERRY NEWS (@KPInfos_) September 15, 2020
Selena Gomez
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมแคมเปญนี้ถึงมีความสำคัญจนเหล่าดาราออกมาพูดมากมายขนาดนี้ และ Facebook กับ Instagram เกี่ยวอะไรด้วย วันนี้ #เหมียวนานะ มีคำตอบค่ะ
จุดเริ่มต้นจากประเด็นร้อน Black Lives Matter
แม้ว่าบ้านเราอาจจะไม่ได้ยินเกี่ยวกับการประท้วง Black Lives Matter มาพักใหญ่ๆ แล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าประเด็นนี้จะหายออกไปจากอินเทอร์เน็ตซะทีเดียว
เนื่องจากช่วงเวลาที่ผ่านมามีการใช้ Hate Speech หรือถ้อยคำที่สร้างความเกลียดชัง ทั้งคำพูดเชิงเหยียดเชื้อชาติ สีผิว คำพูดรุนแรงต่างๆ ไปจนถึงข่าวปลอมลงบนโซเชียลมีเดีย
ซึ่งโซเชียลมีเดียบางเจ้าไม่มีนโยบายจัดการกับเนื้อหาและคำพูดที่ไม่เหมาะสมเวลาที่มีคนปล่อยถ้อยคำเหล่านี้ลงบนแพลตฟอร์ม ทำให้เกิดผลกระทบมากมายต่อชุมชนคนผิวสี ไปจนถึงคอมมิวนิตี้อื่นๆ ตามมา
องค์กรต่างๆ เริ่มแคมเปญ #StopHateForProfit
ในเมื่อมีคำพูดรุนแรงและเหยียดสีผิวกระจายไปทั่วโซเชียลมีเดียที่มีคนใช้กันทั่วโลกขนาดนี้ ทางองค์กรใหญ่ๆ เช่น Color of Change, NAACP และอื่นๆ ไม่ขอนิ่งเฉย
ร่วมเชิญชวนแบรนด์ดังเข้าแคมเปญ Stop Hate For Profit เป็นแคมเปญที่หยุดการสร้างความเกลียดชัง เพื่อแสวงหาผลกำไรบนโซเชียลมีเดียที่ยังไม่มีนโยบายจัดการ Hate Speech อย่างจริงๆ จังๆ
Facebook ถูกแบน Mark Zuckerberg ถูกกดดันอย่างหนัก
ซึ่งแน่นอนค่ะว่าโซเชียลมีเดียที่ยังไม่มีนโยบายเหล่านี้ก็คือ Facebook นี่แหละ จึงทำให้ Mark Zuckerberg ถูกกดดันจากหลายๆ ด้านเพื่อให้เขาออกมาจัดการเรื่องนี้อย่างจริงๆ จังๆ
นั่นจึงทำให้แบรนด์ดังหลายแบรนด์เริ่มแบนการนำเข้าโฆษณาบน Facebook นอกจากนี้ยังมี Instagram และ Twitter ที่โดนแบนในครั้งนี้เพราะยังไม่มีนโยบายการจัดการที่เหมาะสมอีกด้วย
เรียกได้ว่าเป็นการสูญเสียรายได้ครั้งใหญ่ของโซเชียลมีเดียเหล่านี้เลยค่ะ เพราะแต่เดิมพวกเขาได้รับรายได้จากการโฆษณาของแบรนด์ต่างๆ เป็นหลัก
และก็มีหลายแบรนด์ดังด้วย เช่น The North Face, Walmart Stores, Microsoft, Disney, Starbucks, New York Times, Coca-Cola, Adidas และแบรนด์อื่นๆ อีกกว่า 200 แบรนด์เข้าร่วมแคมเปญในครั้งนี้
แล้วโซเชียลมีเดียไหนที่ปรับใช้นโยบายนี้บ้างแล้วนะ?
ในตอนนี้โซเชียลมีเดียต่างๆ เริ่มมีการนำนโยบายจัดการกับเนื้อหาและคำพูดที่ไม่เหมาะสมมาใช้แล้วค่ะ ก็จะมี Reddit, YouTube และ Twitch เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ถึงจะถูกกดดันหนักแค่ไหนพี่ Mark ของพวกเราก็ยังคงนิ่งเฉยอยู่ดี จนทำให้ในตอนนี้แคมเปญ #StopHateForProfit กำลังขยายไปยังสื่อโฆษณาในเขตประเทศแถบทางยุโรปแล้ว
ในส่วนของ Twitter ได้ออกมาแสดงจุดยืนแล้วว่าไม่เอาความรุนแรงและไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งกำลังจะจัดการเกี่ยวกับนโยบายในเร็วๆ นี้
เราต้องมารอชมกันต่อไปว่างานนี้ทาง Facebook จะรับมืออย่างไร…
เรียบเรียงโดย #เหมียวนานะ
ที่มา: #StopHateForProfit, elle, theconversation
Advertisement
0 Comments