บทสัมภาษณ์เมื่อ: Aug 19, 2016
หากจะให้นึกถึงนางแบบสายครีเอท และมีความคิดสร้างสรรค์สุดบรรเจิดล่ะก็ เชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องนึกถึงน้องม๊าเดี่ยวอย่างแน่นอน
เพราะตั้งแต่เมื่อช่วงกลางปี 2558 ที่เธอเริ่มโด่งดังจากการหยิบโน่นผสมนี่จนกลายเป็นอัลบั้มภาพถ่ายแฟชั่นฮาๆ เธอก็มีงานตามมาแบบไม่ขาดสาย
ในตอนนั้นเอง#เหมียวฟิ้นก็ได้มีโอกาสสัมภาษณ์เธอด้วย (อ่านบทสัมภาษณ์เก่าได้ที่ เหมียวสัมภาษณ์ ‘น้องม๊าเดี่ยว’ เจ้าแม่แฟชั่นที่มาแรงสุดในโลกออนไลน์)
หลังจากที่เวลาผ่านไป 1 ปี เธอเองดูจะเติบโตขึ้นมาก แถมยังมีงานเดินแบบทั้งในและต่างประเทศอยู่ตลอดเวลา เราจึงขอกลับมาพูดคุยกับเธออีกครั้งเพื่ออัพเดทเรื่องราวในวงการของเธอว่าเป็นยังไงบ้าง กับความฝันที่ตั้งใจไว้
เหมียวฟิ้น: สวัสดีครับน้องม๊าเดี่ยว ไม่ได้เจอกันตั้งปีนึง คิดถึงจังเลย
ม๊าเดี่ยว: คิดถึงเหมือนกัน แอบน้อยใจนะ คิดว่าลืมน้องคนนี้ซะแล้ว
เหมียวฟิ้น: ฮ่าๆ ไม่ลืมครับ เราติดตามดูผลงานและการเติบโตของน้องอยู่ตลอดเลยครับ
ม๊าเดี่ยว: ปลื้มปริ่ม
เหมียวฟิ้น: หลังจากที่เราคุยกันเมื่อ 1 ปีที่แล้ว ชีวิตน้องเปลี่ยนไปยังไงบ้าง?
ม๊าเดี่ยว: ชีวิตเปลี่ยนไปค่อนข้างมากและเปลี่ยนไปในทางที่ดีค่ะ มีโอกาสทำสิ่งต่างๆ ที่เราไม่เคยทำ ได้มีโอกาสไปทำงานกับต่างประเทศ ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ ได้ถ่ายนิตยสารต่างๆ มีอีเว้นท์บ้าง และที่น้องม๊าเดี่ยวภูมิใจ เร็วๆ นี้กำลังจะมีแบรนด์เสื้อผ้าและแบรนด์รองเท้าค่ะ
เหมียวฟิ้น: โด่งดังมากเลยทีเดียวนะครับ งานกับต่างประเทศที่ว่านี้พอจะบอกได้ไหมครับว่ามีใครจ้างไปทำะไรบ้าง!?
ม๊าเดี่ยว: Asia’s Next Top Model เป็นรายการค้นหานางแบบทั่วเอเชีย หนูได้รับหน้าที่เป็นดีไซเนอร์ทำชุดให้กับนางแบบที่เข้ารอบทั้ง 9 คน และได้เป็นกรรมการตัดสินในตอนที่ 5 ค่ะ ส่วนเกาหลีญี่ปุ่นไปเดินแบบในรายการทีวีค่ะ
เหมียวฟิ้น: ที่เกาหลีกับญี่ปุ่นนี่ เราก็เตรียมชุดของเราไปเองเลยหรือเปล่าครับ?
ม๊าเดี่ยว: เขามีวัสดุของเขาเตรียมไว้ไห้ค่ะ แล้วให้เราออกแบบ
เหมียวฟิ้น: แล้วที่ญี่ปุ่นกับเกาหลีเขามีรีแอ็คชั่นกับเรายังไงบ้างครับ?
ม๊าเดี่ยว: เขาก็อึ้งนะคะ คงเป็นเพราะอายุเรายังน้อยและอีกอย่างเขาคงทึ่งกับความคิดของเรา และภายนอกเราก็คือเด็กผู้ชายด้วยค่ะพี่
เหมียวฟิ้น: เมื่อกี้เห็นน้องพูดถึงเรื่องเปิดห้องเสื้อเป็นของตัวเอง อันนี้พอจะเล่าได้ไหมครับว่าจะมีเสื้อผ้าแบบไหน ใครเป็นคนออกแบบ?
ม๊าเดี่ยว: เป็นแบรนด์ที่รวมไอเดียทำร่วมกันกับพี่โอ่ง กงพัฒน์ ค่ะ ชื่อแบรนด์ ko&ma เสร็จ 80% แล้วค่ะ
เหมียวฟิ้น: ตอนนี้น้องม๊าเดี่ยวมีงานเข้ามาเยอะขนาดนี้ มีการจัดการเวลายังไงบ้างครับ มีกระทบกับเวลาเรียนบ้างหรือเปล่า?
ม๊าเดี่ยว: ต้องแบ่งเวลาให้เป็นค่ะ และไม่หักโหมมากเกินไป พักผ่อนบ้าง ก็มีผู้จัดการช่วยดูแลเวลา ส่วนเรื่องเวลาเรียนเนี่ยไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะม๊าเดียวได้รับทุนเรียนที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพค่ะ
เหมียวฟิ้น: จากที่คราวที่แล้วที่เราคุยกัน ที่น้องบอกว่าอยากทำงานในวงการแฟชั่น ตอนนี้น้องคิดว่าตัวเองมาถึงระดับไหนแล้วครับ?
ม๊าเดี่ยว: คงก้าวเข้ามาครึ่งขาแล้วล่ะค่ะ เพราะอีกอย่างหนูยังเด็กอยู่ ต้องรอให้หนูได้เรียนรู้ เรียน และประสบการ์ณต่างๆ หนูคิดว่าพอได้เรียนแล้ว หนูน่าจะก้าวเข้ามาเต็มตัวแน่นอน
เหมียวฟิ้น: ทางครอบครัวเราเปลี่ยนไปยังไงบ้างครับ?
ม๊าเดี่ยว: ก็ดีขึ้นกว่าเดิมมากค่ะ เพราะหนูก็ไม่ได้รบกวนเงินของทางบ้านแล้ว สามารถเลี้ยงดูพ่อแม่ได้
เหมียวฟิ้น: ได้ฟังแบบนี้พี่ล่ะภูมิใจแทนพ่อแม่ของน้องม๊าเดี่ยวจริงๆ เลยครับ
ม๊าเดี่ยว: ขอบคุณมากค่ะพี่
เหมียวฟิ้น: เร็วๆ นี้มีผลงานหรือเดินแบบที่ไหนหรือเปล่าครับ
ม๊าเดี่ยว: วันที่27นี้เดินแบบกับ The Face ที่เชียงใหม่ค่ะ แฟนคลับสามารถมาเจอม๊าเดี่ยวได้น้า
เหมียวฟิ้น: สุดท้ายนี้ครับ อยากฝากอะไรถึงคนมีฝัน มีไอเดีย แล้วจะหยิบจับให้มันออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้ยังไง
ม๊าเดี่ยว: ทำออกมาให้เต็มที่เลย ไม่ต้องไปสนคนรอบข้าง และฝันให้ไกล และมุ่งมันทำมันออกมาให้ดี สักวันจะเป็นจริงค่ะ
และนั่นคือบทสัมภาษณ์กึ่งพูดคุยระหว่าง#เหมียวฟิ้นกับน้องม๊าเดี่ยวล่ะ เราก็ได้แต่ส่งกำลังใจให้เด็กคนนี้เดินบนเส้นทางที่ฝันไว้ จนกลายเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับวัยรุ่นอีกหลายๆ คนที่มีฝันล่ะนะ
เรียบเรียงโดย เหมียวฟิ้น
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น