CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

‘หวั่นถูกโยงกราดยิง’ ค่ายหนัง Universal ยกเลิกโปรแกรมฉายหนังระทึกขวัญ The Hunt

จากเหตุการณ์กราดยิงที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ นับเป็นเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 ในระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือนกันเลยทีเดียว

ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 50 ราย และเสียชีวิตอีกกว่า 30 ราย หลายคนต่างก็ร่วมออกมาประณามเหตุรุนแรงดังกล่าว รวมไปถึงท่านประธานาธิบดี Donald Trump ที่ออกมากล่าวโทษว่า ‘เกม’ เป็นสาเหตุหลัก

 

 

นอกจากนี้ท่านประธานาธิบดียังวิจารณ์ไปถึงวงการฮอลลิวูด (สื่อภาพยนตร์) ที่มักจะสร้างสรรค์ผลงานที่มีอิทธิพลทั่วไป เป็นเสมือนกับเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างความแตกแยกให้กับคนในชาติ

หลายภาคส่วนต่างก็ตื่นตัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเริ่มหันมาคว่ำบาตรหนังหรือเกมที่อาจนำไปสู่เหตุการณ์ความรุนแรงได้

รวมไปถึงหนังแนวระทึกขวัญเรื่องใหม่ ที่กำลังจะถูกนำมาฉายในโรงของสตูดิโอ Universal ก็ถูกยกเลิกโปรแกรมฉายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หนังเรื่องดังกล่าวมีชื่อว่า The Hunt ซึ่งเดิมทีมีกำหนดฉายในวันที่ 27 กันยายน 2562 ที่จะถึงนี้

 

 

โดยทางสตูดิโอ Universal ก็ได้ออกแถลงดังต่อไปนี้

“ขณะนี้ทาง Universal ได้ยุติการประชาพันธ์การตลาดของหนังเรื่อง The Hunt เป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่เราพิจรณาอย่างที่ถ้วนแล้ว ทางสตูดิโอตัดสินใจที่จะยกเลิกโปรแกรมฉายหนัง”

“และเราจะแจ้งไปยังหุ้นส่วนของเราให้พวกเขาได้ทราบ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะปล่อยหนังเรื่องนี้ออกไป”

 

ลองไปชมตัวอย่างดูครับ

 

The Hunt เป็นหนังแนวระทึกขวัญ บู๊ล้างผลาญ จากทีมผู้สร้าง The Purge และ Get Out โดยหนังมีฉากความรุนแรงและถูกจัดอยู่ในเรต R

เป็นเรื่องราวของชาวบ้านที่ถูกจับมาขังรวมไว้ในที่เดียวกัน เป็นเหยื่อให้มหาเศรษฐีออกไล่ล่า เป็นลักษณะเกมกีฬาของเหล่าคนรวย (เปลี่ยนจากล่าสัตว์ป่าเป็นล่ามนุษย์แทน)

 

 

แม้ว่าในตัวอย่างจะไม่มีฉากที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย หรือเหตุกราดยิง แต่ทางผู้จัดก็ตัดสินใจที่จะยกเลิกตารางฉายออกไปอย่างไม่มีกำหนด รวมไปถึงการยุติการประชาสัมพันธ์หนังเรื่องนี้อีกด้วย

และหนังเรื่อง The Hunt นี้ก็มีกำหนดฉายในไทยวันที่ 26 กันยายน 2562 ที่จะถึงนี้เช่นกัน แต่คาดว่าน่าจะถูกยกเลิกโปรแกรมฉายเช่นเดียวกัน

 

ที่มา : thehollywoodreporter, bbc


Tags:

Comments

ใส่ความเห็น