คน “Gen Z” ตามความหมายแล้วคือคนที่เกิดในช่วงกลางถึงปลายยุค 90 (ราวๆ ปี 1996-2015) โดยคนกลุ่มนี้มักถูกมองว่าเกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยี ทำให้มีการปรับตัวและเรียนรู้ได้เร็ว
แน่นอนว่าเช่นเดียวกับคนยุคก่อนๆ กลุ่มคน Gen Z เองสักวันหนึ่งก็จะต้องมีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้ขยับเคลื่อนโลกในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน การเมือง หรือการอนุรักษ์ธรรมชาติ
ดังนั้น นี่จึงอาจจะเป็นข้อมูลที่ค่อนข้างน่าสนใจเลยเพราะเมื่อล่าสุดนี้เอง จากการทำแบบสอบถามของบริษัทวิจัยการตลาดอย่าง Morning Consult พวกเขาได้ค้นพบว่า
คน “Gen Z” กว่าครึ่งในปัจจุบันนั้น เชื่อว่า ภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงของโลก เป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว
แบบสอบถามในครั้งนี้ถูกเก็บข้อมูลเมื่อช่วงวันที่ 21-23 สิงหาคม 2020 ที่ผ่านมา โดยมันถูกดำเนินการกับกลุ่มอาสาสมัคร Gen Z จำนวน 1,000 คน โดยจากการเก็บข้อมูลพวกเขาพบว่า
มีคน Gen Z ถึง 49% ที่คิดว่าว่า ภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงของโลกไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และสิ่งเดียวที่มนุษย์ทำได้ก็มีเพียงแค่หน่วงเวลาให้มันเกิดช้าลงเท่านั้น
ในขณะที่ ราวๆ 26% บอกว่ามนุษย์ยังสามารถหยุดภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงได้
15% บอกว่าพวกเขาไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
8% บอกว่าภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงมันเกินกว่าการควบคุมของมนุษย์
และอีก 2% บอกว่าภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ
อ้างอิงจากข้อมูลของบริษัทวิจัย ดูเหมือนว่าชาว Gen Z ส่วนใหญ่จะรู้สึกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อสิ่งแวดล้อมเอามากๆ
ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนักที่พวกเขาจะมีความคิดในแง่ลบ เพราะหากเรามองช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา
เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าในช่วงชีวิต โดยเฉพาะวัยเด็กของคน Gen Z โลกของเรามีข่าวการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ สภาพอากาศเลวร้าย และปัญหาอื่นๆ มากมายเต็มไปหมด
แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเชื่อว่าภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงของโลกไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แล้วก็ตาม
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับแหล่งพลังงานที่พวกเขาสนใจในอนาคต คน Gen Z จำนวนมากก็ยังให้ความสำคัญกับแหล่งพลังงานสะอาดมากอยู่ดี
ด้วยจำนวนคนกว่า 50% สนใจทำงานในแหล่งผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
43% สนใจทำงานในแหล่งผลิตไฟฟ้าพลังงานเกี่ยวกับลม
41% สนใจทำงานในแหล่งผลิตไฟฟ้าพลังงานเกี่ยวกับน้ำ
และเพียงแค่ 15% สนใจทำงานในแหล่งผลิตไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน
ดังนั้นเราก็คงจะต้องบอกว่า แม้จะเชื่อว่าภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงของโลกไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็ตาม แต่คน Gen Z เองก็พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เช่นกัน
แต่ความเปลี่ยนแปลงนี้จะสามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ หรือไม่นั้น มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนรุ่นนี้เพียงรุ่นเดียวแต่เป็นทุกๆ คนในโลกต่างหาก ที่จะต้องช่วยกันทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเหลือโลกใบนี้ ก่อนที่มันจะสายเกินไป
ที่มา futurism และ morningconsult
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น