ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 1969 ถือเป็นวันอันยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ เพราะเป็นวันที่นักบินอวกาศทั้ง 3 คนอย่าง Neil Armstrong, Michael Collins และ Buzz Aldrin จาก NASA ได้ขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ได้สำเร็จ
Neil (ด้านซ้าย) Michael (ตรงกลาง) และ Buzz (ด้านขวา)
ทั้ง 3 คนได้รับภารกิจในชื่อว่า Apollo 11 ซึ่งเป็นชื่อเดียวกันกับยานที่ได้พาทั้ง 3 นักบินอวกาศไปเหยียบบนดวงจันทร์ด้วยเช่นกัน
โดยภารกิจนี้ถูกวางแผนไว้ตั้งแต่ในสมัยของประธานาธิบดี John F. Kennedy แห่งสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ เป็นที่น่าเสียดายว่าเขาถูกลอบสังหารก่อนที่จะได้เห็นภารกิจลุล่วงไปด้วยดี
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว แต่ใครจะรู้หรือไม่ว่ากว่าภารกิจอันยิ่งใหญ่นั้นจะสำเร็จได้ต้องผ่านการเตรียมตัว และพบเจออะไรมาบ้าง เนื่องจากไม่ใช่ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่คาดไว้
อีกทั้งยังเป็นครั้งแรก ก้าวแรกของมนุษย์ ที่ได้ข้ามผ่านขีดจำกัดไปเยี่ยมเยือนดาวดวงอื่น เพราะฉะนั้นจึงได้มีการเปิดเผยข้อเท็จจริง 8 ข้อ กับการเตรียมตัว และสิ่งที่ต้องพบเจอในภารกิจนี้นั่นเอง ไปอ่านกันได้เลยค่ะ
1. กลิ่นบนดวงจันทร์
หนึ่งในคำถามที่เป็นที่สงสัยจากผู้ที่รอรับชมก็คือ พื้นผิวของดวงจันทร์นั้นเป็นอย่างไร? ขณะก้าวเท้าย่ำลงไปนั้นพื้นผิวมันแข็ง หรืออ่อนนุ่มจนเท้าจมลงไปได้หรือไม่?
คำตอบก็คือพื้นผิวของดวงจันทร์นั้นเป็นของแข็ง และมีความเหนียวแน่นมาก แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจกว่าพื้นผิวของมันก็คือกลิ่นของดวงจันทร์นั่นเอง
มีการเปิดเผยว่าเมื่อ 2 นักบินอวกาศอย่าง Neil และ Buzz กลับเข้ายานอวกาศหลังไปสำรวจดวงจันทร์ ทั้งคู่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่ามีกลิ่นดินติดกับชุดของนักบินด้วย
กลิ่นนั้นเป็นกลิ่นไหม้เหมือนขี้เถ้า เหมือนดอกไม้ไฟ หรือกลิ่นอากาศหลังจุดดอกไม้ไฟนั่นเอง อย่างไรก็ตาม เมื่อกลับสู่โลก กลิ่นก็จางไปหมดแล้ว กลิ่นของดวงจันทร์จึงยังคงอยู่บนดวงจันทร์ตามเดิม
2. ประธานาธิบดี Kennedy มุ่งเน้นการโจมตีโซเวียตมากกว่าสนใจในอวกาศ
ถึงแม้จะมีถ้อยคำประกาศของประธานาธิบดี Kennedy ว่าการไปอวกาศนั้นจะเปิดโอกาสให้สหรัฐอเมริกาได้รับชัยชนะ มีพลังอำนาจมากขึ้น
อย่างไรก็ตามได้มีการเปิดเผยว่าเขาสนใจในการเอาชนะสงครามเย็นกับสหภาพโซเวียตมากกว่า จึงตัดสินใจส่งนักบินอวกาศทั้ง 3 คนไปดวงจันทร์บ้าง หลังจากสหภาพโซเวียตปล่อยดาวเทียม Sputnik 1 ขึ้นสู่วงโคจรโลกเมื่อปี 1957
3. สหภาพโซเวียตก็พยายามส่งมนุษย์ขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์เป็นคนแรกเช่นกัน
ในขณะนั้นทั้งสหภาพโซเวียต และสหรัฐอเมริกาถือเป็นคู่แข่งกันเลยก็ว่าได้ ทั้งคู่ต้องการแสดงถึงความเป็นประเทศมหาอำนาจ ด้วยการส่งมนุษย์ขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์เป็นคนแรกของโลกเหมือนกัน
และในขณะนั้นสหรัฐอเมริกาก็ไม่ใช่เพียงประเทศเดียวที่เตรียมตัวสร้างภารกิจส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ เพราะสหภาพโซเวียตก็พยายามทำมันให้สำเร็จ แต่สหรัฐอเมริกาทำสำเร็จก่อนนั่นเอง
4. การเตรียมความพร้อมของนักบินอวกาศ
นักบินอวกาศในภารกิจนี้จำเป็นต้องฝึกการเดิน และการใช้ชีวิตประจำวันในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง โดยเฉพาะเมื่อไม่เคยมีมนุษย์คนใดเคยไปมาก่อน NASA เลยจัดการสร้างแบบจำลองถึงสิ่งที่นักบินอวกาศอาจจะพบที่ดวงจันทร์นั่นเอง
เช่น การสร้างพื้นผิวดวงจันทร์ปลอมๆ เพื่อจำลองทั้งการเดิน และการลงจอดยาน ในชื่อการฝึกว่า Lunar Landing Training Vehicle ให้ลองการเดินในบรรยากาศที่มีแรงโน้มถ่วงต่ำ อีกทั้งยังฝึกเดินบนกำแพงเอียงอีกด้วย
NASA เองยังทำการสำรวจทางธรณีวิทยาบริเวณหลุมอุกกาบาตที่ Cinder Lake รัฐแอริโซนา เพื่อสร้างภูมิทัศน์ให้คล้ายคลึงกับพื้นผิวดวงจันทร์ ทำให้การเตรียมตัวสมบูรณ์แบบเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
5. นักเคลื่อนไหวได้สิทธิ์นั่งแถวหน้าในการเปิดตัว Apollo 11
ไม่ใช่ทุกคนที่สนับสนุนรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในภารกิจส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ในครั้งนี้ เนื่องจากไม่กี่วันของการเปิดตัว Apollo 11 กลุ่มนักเคลื่อนไหวนำโดย Ralph Abernathy เดินทางมายังศูนย์อวกาศแห่งชาติ Kennedy เพื่อประท้วงภารกิจดังกล่าว
เนื่องจากเงินที่ใช้ไปกับภารกิจนี้สามารถช่วยเหลือผู้ขาดแคลน ที่พบเจอกับความยากลำบากในถิ่นทุรกันดารได้
ทั้งนี้ Thomas Paine ผู้ดูแลระบบของ NASA ได้ออกมาเจรจา พร้อมอธิบายถึงความสำคัญของภารกิจ ก่อนจะให้ Ralph ได้นั่งที่นั่งระดับ VIP ในการปล่อยยาน Apollo 11
6. Buzz Aldrin ได้รับศีลมหาสนิทบนดวงจันทร์
เมื่อ Apollo 11 ลงจอดบนดวงจันทร์เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 1969 Buzz มีบางอย่างต้องทำก่อนที่จะออกไปเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์ นั่นคือการทำพิธีทางคริสต์ศาสนา
Buzz ถือเป็นคริสต์ศาสนิกชนคนแรกที่ได้ทำพิธีของคริสเตียนบนดวงจันทร์เลยก็ว่าได้
7. นักวิทยาศาสตร์มีความกังวลเกี่ยวกับเชื้อโรคในอวกาศ
หลังจากได้ทำภารกิจเพื่อความก้าวหน้าของมนุษยชาติสำเร็จ ทั้ง 3 นักบินอวกาศต่างต้องถูกกักตัวในเขตกักกันเมื่อกลับมาถึงพื้นโลก
เนื่องจากยังไม่เคยมีมนุษย์คนใดขึ้นไปถึงดวงจันทร์มาก่อน เมื่อพวกเขากลับมา นักวิทยาศาสตร์ และทีมแพทย์จึงต้องตรวจหาโรคระบาดอย่างละเอียดก่อน
โดยทั้ง 3 คนถูกกักตัวตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม ถึงวันที่ 10 สิงหาคม 1969 เมื่อพบว่าร่างกายสุขภาพดี และปลอดภัยจากโรค จึงถูกปล่อยตัวออกมาใช้ชีวิตตามปกติเหมือนเดิมนั่นเอง
8. ประธานาธิบดี Nixon กังวลว่าภารกิจอาจล้มเหลว
เนื่องจากภารกิจดังกล่าวเป็นภารกิจที่ควบกันระหว่าง 2 ประธานาธิบดี และเป็นช่วงเดียวกันกับที่ประธานาธิบดี Kennedy ถูกลอบสังหาร ก่อนที่เขาจะเห็นภารกิจ Apollo บรรลุไปด้วยดี
นั่นจึงทำให้ประธานาธิบดี Nixon ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนจากการเลือกตั้งในปี 1968
ภาพบรรยากาศความปีติยินดี ที่ภารกิจ Apollo 11 สำเร็จ
ประธานาธิบดี Nixon มีความกังวลเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับความปลอดภัยของนักบินอวกาศ และหากมีอะไรผิดพลาด เช่น นักบินอวกาศเสียชีวิตขณะทำภารกิจ เขาจะต้องจัดการรับผิดชอบด้วยเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว
ทีมงานของเขาถึงขั้นเตรียมถ้อยคำแถลงสำหรับเหตุการณ์เลวร้ายที่ได้คาดการณ์ไว้ด้วย อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี Nixon ก็ไม่ได้มีโอกาสอ่านถ้อยคำแถลงที่เตรียมไว้ เนื่องจากภารกิจผ่านพ้นอย่างสำเร็จไปได้ด้วยดีนั่นเอง
เรียบเรียงโดย #เหมียวเมษา
ที่มา: history
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น