ในสังคมของวัยทำงานนั้น หลายคนอาจจะประสบกับความกดดันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมขององค์กร ระบบการทำงาน นิสัยของเพื่อนร่วมงาน และประเด็นใหญ่ที่สุดก็หนีไม่พ้นเจ้านายหรือหัวหน้างาน…
ความเป็นบอสส่วนใหญ่มักจะใช้อำนาจทางตำแหน่ง บังคับให้ลูกน้องตะบี้ตะบันทำงานอย่างหนัก ซึ่งหากเป็นในเวลางานยังพอยอมได้ แต่เมื่อต้องทำโอฟรีอยู่นอกเวลาไม่ได้ค่าแรงเพิ่มแล้ว ก็ยิ่งทำให้หมดกำลังใจและความศรัทธา
‘หนึ่งวัฒนธรรมองค์กรที่ผมรักในบริษัทนี้ การทำงานช่วงวันหยุดคือสิ่งต้องห้าม’
เรื่องราวของนาย TJ ชาวอินโดนีเซียอาจจะทำให้หลายคนอิจฉาที่เขามีเจ้านายที่ดีขนาดนี้ หลังจากที่เขาจำเป็นจะต้องส่งอีเมลเพื่อยืนยันการจัดประชุมของวันจันทร์สัปดาห์หน้า ซึ่งมันเป็นการทำงานนอกเวลาของเขา และหัวหน้าก็เห็นเข้าถึงกับทักแชทเตือนกันเลยล่ะ
บทสนทนาระหว่างลูกน้องกับหัวหน้างานผู้ใจดี
หัวหน้า: TJ ฉันเห็นเธอกำลังทำงานอยู่น่ะ ไปเอ็นจอยกับวันหยุดเถอะ
TJ: สวัสดีครับ หนึ่งในโรงแรมที่จองห้องประชุมเพิ่งยืนยันมาน่ะครับ ผมก็เลยต้องส่งอีเมลตอบไปนิดหน่อย
หัวหน้า: โธ่เอ๊ย
TJ: ปิดเครื่องแล้วคร้าบบบ
หัวหน้า: ขอโทษด้วยนะ TJ กับข้อมูลล่าช้าในช่วงสุดท้ายของเวลางาน มันจะไม่เกิดขึ้นอีก โอเคมะ? (ปรบมือให้กับงานที่เสร็จสิ้น)
นอกจากนี้ยังมีต่ออีก หัวหน้าเป็นห่วงเป็นใยลูกน้องมาก
หัวหน้า: เฮ้ TJ ไม่มีปัญหาหรอก ฉันแค่สับสนนิดหน่อย ว่าแต่อยากลาหยุดมั้ย?
TJ: แต่ผมอาจจะไปออฟฟิศตอน 8 โมง แล้วผมค่อยกลับบ้านตอนเที่ยง โชคร้ายที่วันลาผมหมดแล้วครับ
หัวหน้า: ต้องการเพิ่มมั้ย? เธอทำงานที่บ้านจากชั่วโมงที่เหลือก็ได้นะ
TJ: สลับไปทำเต็มวันศุกร์หน้า หรือเพิ่มเวลาทำงานหนึ่งชั่วโมงในวันจันทร์หรืออังคารหน้าได้มั้ยครับ?
Tadi ada yang bilang itu karena bosnya bule. Sebelum bos bule itu, bos lamaku orang Indonesia dan menurutku beliau irreplaceable.
Ini pas bapak kritis dan ibu sakit, beliau kirim makanan ke RS dan bunga. Akupun disuruh pulang ke Solo tanpa ajukn cuti biar bisa temenin ortu 🙂 pic.twitter.com/2hEWtOKHB5
— R. Torry Jatiprakoso (TJ) (@Torriosh) November 2, 2019
สำหรับ TJ แล้วเขาต้องกลับไปดูแลคุณแม่ที่ป่วยอยู่ จึงไม่ค่อยสะดวกมาทำงานในช่วงดังกล่าว หัวหน้าจึงยื่นข้อเสนอให้ทำงานที่บ้านแทน และจะได้ไม่ต้องทำงานล่วงเวลาชดเชยในสัปดาห์หน้า
ชาวเน็ตจึงมองว่าเป็นเพราะทัศนคติของหัวหน้างานที่เป็นชาวต่างชาติผิวขาว จึงมีความเข้าอกเข้าใจในจุดนี้ ซึ่ง TJ ระบุว่าบริษัทของเขาก่อนหน้านี้ก็มีหัวหน้าเป็นชาวอินโดนีเซียมาก่อน และมีความเข้าใจเช่นเดียวกันกับหัวหน้าคนปัจจุบัน
ที่มา: @Torriosh, worldofbuzz
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น