CatDumb – แคทดั๊มบ์ | เล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังง่ายๆ พร้อมคอนเทนต์พิเศษบ้างเป็นบางเวลา…

คุณพ่อสุดเถรตรง บอกลูกวัย 3 ขวบว่า “ไส้กรอกทำจากหมู” น้องช็อก ไม่แตะไส้กรอกแล้ว

ในขณะที่พ่อแม่หลายๆ คนนั้นรู้สึกลำบากใจที่จะตอบคำถามลูกๆ ไม่ว่าจะเป็นคำถามสุดคลาสสิกที่ว่า “หนูเกิดมาได้ยังไง” หรือคำถามธรรมดาเกี่ยวกับอาหารที่เด็กๆ ทานอยู่

บางอย่างแม้จะเป็นเรื่องจริง แต่หลายคนก็มองว่าเด็กๆ ยังไม่สมควรจะรับรู้ แต่ทางด้านคุณพ่อคนนี้อาจจะคิดว่า “ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย”

 

 

น้อง Erin Copeland เด็กหญิงวัย 3 ขวบตัวน้อยๆ กำลังทานมื้อเย็นของเธอซึ่งในจานนั้นมีถั่วลันเตา มันบด และไส้กรอก

แล้วในระหว่างที่ทานอาหารอยู่นั้น น้อง Erin เกิดสงสัยขึ้นมาว่า “ไส้กรอกมันมาจากไหน” จึงถามคุณพ่อของเธอที่อยู่อยู่ใกล้ๆ

 

 

ตามปกติเมื่อโดนถามแบบนี้หลายคนอาจเลือกตอบแบบกว้างๆ ไปว่า “ทำมาจากเนื้อหมู” แต่หลังจาก Brian บอกน้องไปว่า “ไส้กรอกคือหมู เราเอาหมูมาทำไส้หรอกจ้ะ แล้วเราก็กินเข้าไป”

น้อง Erin ก็ถึงกับส่ายหัวและบอกว่า “แบบนั้นไม่ดีเลย” ส่วนคุณพ่อก็ตอบกลับว่า “ไม่ดีหรอก แต่เราทำกันแบบนี้แหละ”

 

 

จนถึงตรงนี้ดูน้องจะยังไม่ค่อยเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับหมู น้องยิ้มแล้วโบกส้อมพร้อมบอกว่า “แล้วเราก็เอาไส้กรอกมาทำเป็นอาหาร” ก่อนที่คุณพ่อจะปล่อยหมัดเด็ดว่า

“ใช่จ้า มันเริ่มจากเราฆ่าหมู ฆ่าตายเลย” ทีนี้สีหน้า Erin เริ่มมีความช็อกอยู่ในนั้นแล้ว เมื่อพ่อยืนยันว่า มนุษย์ฆ่าหมูแล้วเอาหมูมาทำเป็นไส้กรอกที่อยู่ในจานของเธอ น้องยังถามต่อถึงขั้นตอนอีก

 

 

ซึ่ง Brian ก็ยังตอนไปตามตรงว่า มันมีเครื่องจักรใหญ่ๆ ที่เปลี่ยนเนื้อหมูเป็นไส้กรอก ทำเอาน้องไม่พอใจกับคำตอบ แล้วพอคุณพ่อถามต่อว่า “ไส้กรอกอร่อยมั้ย” น้องก็เหลือบมองไส้กรอกในจานด้วยสายตาว่างเปล่าซะแล้ว

Erin วางส้อม แล้วเปลี่ยนมาใช้ช้อนตักถั่วลันเตากับมันบดเข้าปาก และไม่สนใจในไส้กรอกอีก ภายหลัง Brian เล่าว่า ตอนนี้ Erin ก็กลับมาทานไส้กรอกแล้ว เพียงแต่ว่ามันไม่ใช่ของโปรดของเธอ

 

 

Brian กล่าวว่า เขาชอบเวลาลูกถามคำถามต่างๆ กับเขา การเป็นพ่อคนนั้นทำให้เขาเจอกับคำถามต่างๆ มากมาย และเขาก็คิดว่าเด็กๆ ไม่ควรถูกกีดกันเวลาพวกเขาอยากรู้อะไรสักอย่าง

เขาบอกว่า มันเป็นเรื่องสำคัญที่เด็กๆ จะได้รู้ว่าอาหารของพวกเขามาจากไหน และถ้าลูกสาวของเขาโตพอจะถามคำถามแล้ว ก็หมายความว่าลูกโตพอที่จะได้รับคำตอบเช่นกัน

 

เรียบเรียงโดย #เหมียวม่วง

ที่มา DailyMail และ NYPost


by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น