นับวันเทคโนโลยีบนโลกของเราก็ยิ่งล้ำหน้าขึ้นไปทุกวัน เพื่อนๆ ทราบกันมั้ยครับว่า เรากำลังจะมี ‘ส้วมอัจฉริยะ’ มาให้ได้ใช้งานกันแล้วนะ!!
จากผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ลงในวารสารทางวิศวกรรมวิทยาศาสตร์ Nature Biomedical Engineering ที่ตีพิมพ์ไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
พบว่าเหล่านักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Standford เค้าได้ทำการพัฒนาระบบที่สามารถตรวจสอบสุขภาพของคุณผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลจากการสังเกตอุจจาระและปัสสาวะของคุณได้แล้ว!!
วิธีการวิเคราะห์ของเจ้าส้วมอัจฉริยะนี้ก็คือ เค้าจะติดตั้งอุปกรณ์เอาไว้ด้านในของโถชักโครก ซึ่งเจ้าอุปกรณ์ที่ว่านี้จะมี ‘กล้อง’ และ ‘เซ็นเซอร์’ เอาไว้ตรวจจับลักษณะอุจจาระ และปัสสาวะของคุณ
ไม่ว่าจะเป็นภาพ สี ลักษณะ ความแรงในการไหล ความถี่ในการไหล เวลาในการใช้งาน เป็นต้น
จากนั้นก็จะนำข้อมูลที่ได้ไปเปรียบเทียบกับข้อมูลของระบบสาธารณะสุขที่อยู่บนคลาวด์ (Cloud) ก่อนจะวิเคราะห์และสรุปผลออกมา
อุปกรณ์ติดตั้งไว้ประมาณนี้
นอกจากนี้ข้อดีของอุปกรณ์ที่ว่านี้มันยังสามารถช่วย ‘แยกแยะความแตกต่างของผู้ใช้งาน’ ได้อย่างแม่นยำด้วยการวิเคราะห์จาก ‘รูทวาร’ ของคุณ
ทำให้ทราบว่าข้อมูลสุขภาพของแต่ละคนนั้นเป็นอย่างไร เพื่อการเตือนได้อย่างถูกต้อง!!
“มันอาจจะเป็นเรื่องที่ฟังดูแล้วตลกนะ แต่ความจริงก็คือ ‘รูทวาร’ ของแต่ละคนนั้นมีความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนกันคล้ายๆ กับลายนิ้วมือเลยล่ะ” Sanjiv Gambhir หัวหน้าทีมวิจัยกล่าว
นอกจากนี้เขายังกล่าวถึงงานวิจัยของตัวเองอีกว่า…
“ส้วมอัจฉริยะนี้เป็นหนทางที่ดีที่สุดที่เราจะสามารถใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลที่มีอยู่แล้ว ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงที่สุดโดยที่เราไม่ต้องเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตเลย”
“ตอนแรกที่ผมคิดไอเดียนี้ขึ้นมา คนที่อยู่ร้อบข้างต่างก็หัวเราะ เพราะมันก็เป็นไอเดียที่ดูน่าสนใจดี แต่ขณะเดียวกันก็แปลกสุดๆ ไปเลยล่ะ”
“ทุกคนใช้ห้องน้ำกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว และไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้เลยด้วย เรากำลังเพิ่มสมรรถนะของห้องน้ำที่สามารถตรวจจับโรคได้ให้กับคุณ!!”
ขณะนี้อุปกรณ์ที่ว่านี้ถูกพัฒนาขึ้นมาจนสามารถใช้งานได้แล้ว แต่ยังติดปัญหาเรื่องความสบายใจในการใช้งานอยู่ ก็เลยต้องมีการทดลองใช้กันก่อน
และจากการทดลองพบว่าจากอาสาสมัครกว่า 300 คน มีความพึงพอใจ จากทั้งความสะดวกสบาย และความเจ๋งของมัน!!
อย่างไรก็ตามนาย Sanjiv ระบุว่าส้วมอัจฉริยะนี้ไม่ได้มีประสิทธิภาพมาขนาดที่ว่าต้องเอามาทดแทนการวินิจฉัยของแพทย์ แต่เป็นเสมือนกับอุปกรณ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ และเป็นการเตือนเสียมากกว่า
ที่มา : nature, businessinsider
Advertisement
0 Comments