จากการตั้งคำถามของใครต่อใคร ว่า “ไอ้แว่นเด็กเนิร์ดคนนี้เนี่ยนะ? จะเทียบชั้นกับยอดผู้เล่นอย่าง Miracle- กับ SumaiL” บัดนี้ เขาได้สร้างตำนานบทใหม่ไว้ในโลก DOTA 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่เมื่อวานนี้ #เหมียวหง่าว ได้นำเสนอเรื่องราวของทีม OG แชมป์รายการ The International หรือแชมป์โลก DOTA 2 สองสมัย
และเรื่องราวของ Topson (Topias Miikka Taavitsainen) ผู้เล่นตำแหน่งมิดเลน หรือ เลนกลางของทีม ที่เรียกได้ว่าเป็นเหมือน ‘จิ๊กซอว์’ ชิ้นสำคัญ ที่มีส่วนช่วยให้ทีม OG ก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้ ก็มีความน่าสนใจไม่น้อยไปจากตัวทีมเลยครับ
อาจจะยาวไปซักหน่อย แต่เชื่อว่าคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปอย่างแน่นอน ลองไปรับชมพร้อมๆ กันได้เลย…
เด็กเนิร์ดที่ชอบเล่นตามใจตัวเอง
Topson หรือชื่อจริงคือ Topias Miikka Taavitsainen เป็นเด็กหนุ่มชาวฟินแลนด์วัย 21 ปี ที่ชื่นชอบการเล่นเกม DOTA 2 เป็นชีวิตจิตใจ
แต่เขาจะมีวิธีการเล่นที่แปลกไม่เหมือนใครสักเท่าไหร่ จะบอกว่าเป็นพวก ‘ชอบเล่นตามใจตัวเอง’ ก็คงจะไม่ผิดนัก
เขาเล่นในตำแหน่งมิดเลน หรือ เลนกลาง และชอบเลือกเล่นฮีโร่ที่อยากจะเล่น ไม่เหมือนกับผู้เล่นคนอื่นๆ ที่จะต้องเลือกเล่นฮีโร่ตามเมต้า (META)
(หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันคืออะไร META ย่อมาจากคำว่า Most effective technique available หรือ เทคนิคที่มีประสิทธิภาพที่สูงที่สุดในขณะนั้น
ในแพทช์แต่ละแพทช์จะมีการอัปเดตแก้ไขสกิลฮีโร่ให้เกิดความสมดุลอยู่ตลอดเวลา และหากตัวไหนที่ปรับมามีความได้เปรียบสูง คนก็จะแห่ไปเล่นเยอะ เพราะจะสร้างโอกาสชนะให้กับทีมมากกว่า)
หากจะกล่าวก็คือ พี่ Topson เนี่ยล้มล้างระบบเมต้าไปหมดเลย เหมือนกับว่าเป็นคนสร้างเมต้าขึ้นมาด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาการอัปเดตของตัวเกมแต่อย่างใด (ก็ตรูจะเล่นตัวนี้อ่ะ)
นอกจากนี้พี่แกก็มักจะมานั่งสตรีมเล่นให้คนอื่นๆ ดู ภาพของ Topson ที่เราจะเห็นในสตรีมก็คือ ผู้ชายใส่แว่นทำหน้าเครียดๆ เล่น DOTA 2 อยู่ในห้องนอน ไม่ค่อยพูดค่อยจา แต่ฝีมือน่ะขอบอกเลยว่าสุดจัด แม้แต่ปลัดยังไม่ทันบอก!!
และจากการเล่นที่แปลกประหลาดนี้ก็เลยทำให้แฟนเกมชื่นชอบในตัวเขาอย่างมาก รวมไปถึงแมวมองจากทีม OG ด้วย
เข้าตาแมวมอง
ในระหว่างที่ทีม OG กำลังมองหาเพื่อนร่วมทีมคนใหม่ หลังจากที่ Fly และ s4 ได้ประกาศอำลาทีมไปในช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2018 กลายเป็นข่าวช็อกแฟนๆ เกม DOTA 2 ทั่วโลก
Ceb (Sébastien Debs) ที่ทำหน้าที่เป็นโค้ชของทีม OG ณ ตอนนั้น (ก่อนจะลงสนามเป็นผู้เล่นจำเป็น) ก็เริ่มทำการหาข้อมูล จากการนั่งดูการแข่งขันของผู้เล่นที่พวกเขาสนใจ
แต่แล้วมาสะดุดตาเข้ากับผู้เล่นคนหนึ่ง ที่มีแนวทางการเล่นที่แปลกและไม่เหมือนใคร คนนั้นก็คือ Topson
Ceb กล่าวถึง Topson ว่า “แม้ว่าเขาจะไม่มีประสบการณ์ในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ DOTA 2 มาก่อน แต่เขาก็มีประสบการณ์ในการเล่น DOTA 2 มาอย่างยาวนาน”
“และแม้ว่าแนวทางการเล่นของเขาจะแปลก แต่มันก็แสดงให้เห็นว่า ‘เขาเป็นคนที่มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ว่าตัวเองกำลังจะทำอะไร’
อย่างเช่น ฮีโร่ที่เขากำลังเล่นอยู่ ถ้าไม่รู้จักความสามารถของฮีโร่ตัวนั้นอย่างทะลุปรุโปร่ง เขาก็ไม่สามารถออกไอเทมแปลกๆ มาทำคอมโบได้หรอก”
และด้วยความโชคดีที่หนึ่งในสมาชิกทีม JerAx (Jesse Vainikka) ก็เป็นคนฟินแลนด์ด้วยพอดี เลยทำให้การชักชวนเขาเข้ามาสู่ทีมกลายเป็นเรื่องที่ไม่ยากเย็นนัก
Topson ให้สัมภาษณ์ความรู้สึกตอนที่ถูกชักชวนว่า “ตอนที่ผมถูกชวนให้มาร่วมทีม OG ผมแทบไม่คิดอะไรเลย ตอบตกลงไปทันที”
ไอ้แว่นนี่ใครวะ? คำครหาจากแฟนเกมและนักวิจารณ์
อย่างที่รู้กันดีว่าทีม OG นั้นเคยถูกยกย่องให้เป็นทีมที่ดีที่สุดในโลก เป็นทีมที่ประสบความสำเร็จและเคยคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์มาแล้วมากมาย แต่ก็ต้องอกหักกับทัวร์นาเมนต์ TI ทุกครั้งไป
หลังจากที่ทีม OG ประกาศตัวผู้เล่นที่จะลงแข่งทัวร์นาเมนต์ TI8 ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา
โดยเฉพาะ Topson ที่กลายเป็นเป้าใหญ่ เพราะนอกจากจะเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ ในการเทิร์นตัวขึ้นมาเป็นโปรเพลเยอร์ ไม่เคยมีประสบการณ์ในการลงแข่งทัวร์นาเมนต์มาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว แถมยังรับตำแหน่งมิดเลน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุดอีกต่างหาก
มีการตั้งคำถามขึ้นมาว่า “ไอ้แว่นเด็กเนิร์ดนี่มันคือใครวะ?”
หลายคนต่างก็พูดสบประมาทว่า “ทีม OG จะเอาคนอย่าง Topson มาเทียบชั้นกับ Miracle- (Amer Al-Barkawi) และ SumaiL (Syed Sumail) ที่เป็นผู้เล่นระดับท็อปของวงการ DOTA 2 เนี่ยนะ? คิดอะไรอยู่กันแน่?”
การพิสูจน์ตัวเอง จากสตรีมเมอร์ กลายมาเป็น ‘เสาหลักของทีม’
จากคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง คิดว่าคนเนิร์ดๆ อย่าง Topson จะแคร์รึเปล่า? แน่นอนว่าพี่แกไม่ได้สนใจอะไรเลย เดินหน้าเล่นแต่ DOTA 2 ไปอย่างเดียว
เช่นเดียวกันกับทีม OG ที่พอได้ Topson มา ก็เปลี่ยนรูปแบบการเล่นของทีมไปโดยปริยาย
นั่นก็เพราะว่าสไตล์การเล่นของ Topson เป็นคนที่ชอบเล่นตามใจตัวเอง และพี่แกก็มักจะบวกเละเทะแต่ผลจากการบวกนั้น ก็ทำให้ OG ได้รับผลประโยชน์ที่คุ้มค่า
OG เปลี่ยนมาเล่นสไตล์ที่เรียกว่า High Risk High Return หรือก็คือกล้าได้กล้าเสีย ยอมเสี่ยงมาก เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากตามมาด้วย โดยมี Topson เป็นคนนำ
คนอื่นๆ จะทำหน้าที่ในการสนับสนุนการเล่นของ Topson โดยมี ana (Anathan Pham) ผู้เล่นตำแหน่งแครี่ของทีมไปฟาร์มให้เกิดที่สุด (มีไอเทมมากที่สุด) ทำหน้าที่เป็นเสมือนปราการด่านสุดท้าย
เมื่อไหร่ที่ Topson พลาดก็ยังมี ana ที่คอยประคองเกมเอาไว้ไม่ให้ทีมแพ้ หรืออาจจะพลิกกลับมาชนะเลยก็ยังได้
ทีม OG และ Topson ฝ่าฟันกันตั้งแต่รอบคัดเลือก จนกลายมาเป็นตัวแทนเพียงหนึ่งเดียวของโซนยุโรป เข้าแข่งขัน TI8 จนได้
สร้างตำนานให้ตัวเอง
ในการแข่งขัน TI8 พี่ Topson แกก็เริ่มสร้างตำนานให้กับตัวเอง ด้วยการใช้ฮีโร่ Invoker สร้างช็อตสวยๆ ในงานแข่งขันปีนั้นจนมีแต่คนพูดถึง
นอกจากนี้ยังเลือกฮีโร่แปลกๆ อย่าง Monkey King หรือ Pugna มายืนเลนกลาง ทำเอาผู้เล่นฝั่งตรงข้ามถึงกับรับมือไม่ได้และพ่ายแพ้ไป
Ceb กล่าวถึงการเล่นของ Topson ในการแข่งขัน TI8 ว่า “เขาเป็นคนที่เล่นแปลกมากๆ และความแปลกนี้ ก็ยากต่อการรับมือของผู้เล่นทีมตรงข้ามด้วยเหมือนกัน”
และในที่สุดจากคำครหาทั้งหมดที่ถูกพูดถึงตอนประกาศชื่อทีม Topson และ OG ก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่า ‘มันผิดทั้งหมดเลย’ เพราะพวกเขาใช้ผู้เล่นชุดนี้ต่อสู้ ฝ่าฟัน จนกลายเป็นแชมป์ TI8 ได้อย่างสง่างาม
เส้นทางของเด็กเนิร์ดวัย 20 ปี (ณ ตอนนั้น) ที่นั่งเล่นเกมอยู่ในห้องนอนของตัวเอง จากที่มีเงินเก็บอยู่ในบัญชีแค่ 3,000 เหรียญสหรัฐ (92,000 บาท)
3 เดือนต่อมา เขากลายเป็นแชมป์ TI8 และกลายเป็นผู้เล่น DOTA 2 ที่มีรายได้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 15 (2.3 ล้านเหรียญ หรือ 70 ล้านบาท)
นอกจากเล่นเกมจนเป็นแชมป์แล้ว ก็ได้รับคำเชิญจากประธานาธิบดีฟินแลนด์ เชิญไปร่วมรับประทานอาหารด้วย
จากคำครหาว่า ‘ไอ้แว่นนี่มันเป็นใครวะ?’ จนถึงตอนนี้ มีแต่คนสรรเสริญ และเรียกเขาว่า Godson หรือเทพเจ้าแห่ง DOTA 2
พิสูจน์ฝีมืออีกครั้ง และจารึกตำนานที่ไม่มีใครเคยทำได้
แม้ว่าทีม OG และ Topson จะเอาชนะ TI8 มาได้ ก็ยังไม่พ้นที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า“ที่ OG ชนะ TI8 ได้นั้น มันก็แค่เรื่องฟลุ๊กล่ะว๊า”
ตัดภาพมาที่ TI9 ทีม OG กลับมาสู่เวทีรอบเมนสเตจอีกครั้งด้วยผู้เล่นชุดเดิม 5 คนเหมือนปีที่แล้วแบบเป๊ะๆ
แล้วก็เล่นตามสไตล์เดิม บวกไม่เลือก เสี่ยงเป็นเสี่ยง เอาชนะทุกทีม เข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้จากสายบน (Upper Bracket)
ในรอบชิงก็สามารถเอาชนะทีม Liquid ที่มีผู้เล่นอย่าง Miracle- ไปได้อย่างไม่กดดัน กลายเป็นแชมป์ TI สมัยที่สองได้สำเร็จเป็นทีมแรก!!
มีนักวิจารณ์เค้าพูดถึง Topson ด้วยใจความประมาณหนึ่งว่า…
“Topson เป็นผู้เล่นที่จดจ่ออยู่กับการเล่นเพียงอย่างเดียว เขาไม่เคยกดดันจากการถูกฆ่า หรือตอนที่ทีมเสียเปรียบ
สิ่งที่เขาทำก็คือ ‘เอาใหม่’ บวกแพ้ก็แค่ไปบวกใหม่ให้มันชนะ ก็แค่นั้นเอง”
“นั่นทำให้เขาไม่เคยยอมแพ้ แม้ในสถานการณ์ที่หมดหวังแค่ไหน Topson ก็จะทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีที่สุด เพราะหน้าที่ของเขาก็คือ ‘การเล่นตามใจตัวเอง’ ก็เท่านั้น”
เคยมีคำวิจารณ์ที่บอกว่า ‘อย่าง Topson เนี่ยนะ? จะมาเทียบชั้นกับผู้เล่นชั้นยอดอย่าง Miracle- กับ SumaiL?’ แต่วันนี้ Topson ก้าวข้ามผ่านพวกเขาไปไกลกว่านั้นแล้วครับ
เรียบเรียงโดย #เหมียวหง่าว
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น