นับว่าเป็นข่าวที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่สำหรับแฟรนไชส์อาหารมีชื่ออย่าง “Subway” โดยในสหรัฐอเมริกาไปเสียแล้ว
เมื่อในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมาศาลรัฐแคลิฟอร์เนียสหรัฐฯ ได้ทำการยื่นฟ้องร้อง Subway ในข้อหาหลอกลวงลูกค้า ด้วยการระบุว่าอาหารบนเมนูมีทูน่าเป็นส่วนประกอบทั้งๆ ที่ไม่มีจริง
โดยการฟ้องร้องในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่มีคำร้องเรียนว่า จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการอิสระ ตัวอย่าง “แซนด์วิชทูน่า” หลายชิ้น ที่นำมาจากร้าน Subway ในแคลิฟอร์เนีย
จริงๆ แล้วไม่ได้มีทูน่า แต่กลับกันมันถูกทำขึ้นโดย “ส่วนผสมของการปรุงแต่งต่างๆ เพื่อเลียนแบบลักษณะของปลาทูน่า” แทน
“เราพบว่าส่วนผสมที่ว่านั้น ไม่ใช่ปลาทูน่าและไม่ใช่ปลาด้วยซ้ำ” ทนายความของผู้ฟ้องร้อง ระบุในอีเมลถึงสำนักข่าว Washington Post
แน่นอนว่าเมื่อข่าวออกมาเช่นนี้ ทาง Subway เองก็ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดแล้วเช่นกัน
โดยพวกเขายืนยันว่า แซนด์วิชทูน่าของ Subway นั้นทำจากเนื้อทูน่าที่จับมา 100% และพวกเขาจะต่อสู้ในการฟ้องร้องครั้งนี้อย่างเต็มที่
“การร้องเรียนที่เกิดขึ้นในแคลิฟอร์เนียนั้น ไม่มีข้อกล่าวหาใดเลยที่เป็นความจริง” โฆษกของ Subway กล่าว
“Subway จะส่งแต่ปลาทูน่าปรุงสุก 100 เปอร์เซ็นต์ให้กับร้านอาหารของเรา ซึ่งต่อมามันจะถูกผสมกับมายองเนสและใช้ในแซนด์วิชที่ทำสดใหม่ เพื่อเสิร์ฟให้แขกของเราได้เพลิดเพลิน”
นี่อาจจะจะเป็นการฟ้องร้องที่ดูเผินๆ เหมือนจะถูกปัดตกไปได้ง่ายๆ ก็จริงอยู่ แต่ในขณะเดียวกันนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Subway ถูกฟ้องร้องเกี่ยวกับวัตถุดิบที่พวกเขาใช้แต่อย่างไร
นั่นเพราะในปี 2017 ทาง Subway ก็เคยถูกตรวจสอบโดย CBC Marketplace ว่าเนื้อไก่ที่พวกเขาใช้มี DNA ของไก่จริงๆ แค่ 50% มาแล้ว
ที่สำคัญแม้ในเวลานั้น Subway จะประฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และฟ้องร้องข้อหาหมิ่นประมาทต่อ CBC ไป พวกเขาก็ต้องแพ้คดีและต้องจากค่าเสียหายถึงราวๆ 15 ล้านบาทเลยด้วย
ที่มา iflscience และ washingtonpost
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น