กลายเป็นข่าวที่สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนาหูของโลกออนไลน์ไปแล้ว เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมาสำนักข่าว Washington Post ของสหรัฐอเมริกาได้มีการออกมาเปิดเผยเอกสารหลุดของรัฐบาลสหรัฐ
ซึ่งมีเนื้อหาโดยสรุปว่าภายใต้การบริหารของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รัฐบาลสหรัฐได้ปฏิเสธการตีพิมพ์งานวิจัยหมีขั้วโลกชิ้นหนึ่ง เพราะอาจขัดผลประโยชน์กับการขุดน้ำมันที่รัฐอะแลสกาได้
รายงานชิ้นดังกล่าวนี้จัดทำขึ้นโดยคุณ James Reilly ผู้อำนวยการ กรมการสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ ภายใต้ความร่วมมือของ Polar Bears International องค์กรอนุรักษ์หมีขั้วโลกที่ไม่แสวงหาผลกำไร
และเป็นรายงานที่ระบุถึงผลกระทบของการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในพื้นที่ตอนเหนือของรัฐ ใกล้ๆ ทะเลโบฟอร์ต ซึ่งเป็นแห่งที่อยู่อาศัยของหมีขั้วโลกอีกที
โดยจากรายงานที่หลุดออกมา นักวิทยาศาสตร์ได้บอกว่าหมีขั้วโลกจะได้รับผลกระทบในทางลบจากทั้งเสียง และการรบกวนธรรมชาติ ซึ่งมาจากการขุดน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
แถมมันยังอาจจะนำมาซึ่งอุบัติเหตุไม่คาดฝัน อย่างการที่ลูกหมีถูกรถทับ หรือเข้าได้ติดในเครื่องมือได้
และนอกจากปัญหาที่อาจจะเกิดจากการขุดน้ำมันโดยตรงแล้ว ทางทีมนักวิจัยยังแสดงความกังวลถึง ผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญของการละลายของน้ำแข็งในทะเลในอาร์กติกต่อประชากรหมีขั้วโลกอีกด้วย
นั่นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เคยรุนแรงถึงขนาดที่ในช่วงปี 2012 ไม่มีลูกหมีขั้วโลกรอดชีวิตเลยแม้แต่ตัวเดียว และหากโชคร้ายมันก็อาจจะทำให้ประชากรหมีขั้วโลกสูญพันธุ์ไปหมด ในปี 2050 เลยด้วย
“หมีขั้วโลกทางใต้ของทะเลโบฟอร์ตกำลังต้อง ทุกข์ทรมานจากอัตราการรอดชีวิตต่ำของหมีอายุน้อย และการสูญเสียที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องอยู่”
คุณ Elisabeth Kruger ผู้จัดการโครงการสัตว์ป่าอาร์กติก แห่งกองทุนสัตว์ป่าโลกกล่าว
“ดังนั้นแทนที่เราจะไปเพิ่มแรงกดดันใหม่ให้กับประชากรสัตว์กลุ่มนี้ มันน่าจะถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดเพื่อให้หมีเหล่านี้มีโอกาสที่ดีที่สุดในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป”
ที่มา iflscience, gizmodo และ washingtonpost
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น