กลายเป็นปัญหาใหญ่ในสหรัฐอเมริกา หลังจากที่พบว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคปอดขั้นรุนแรงจำนวนมาก ซึ่งทางทีมแพทย์ก็ได้คาดการณ์กันว่ามันน่าจะมีสาเหตุมาจาก ‘การใช้บุหรี่ไฟฟ้า’
สำหรับใครที่ตามเรื่องนี้กันไม่ทันหรือยังสงสัยว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่ ในคอนเทนต์นี้ #เหมียวตะปู ก็ได้สรุปไทม์ไลน์ของเรื่องที่เกิดขึ้นเอาไว้ ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน (16 กันยายน 2019) ว่าแล้วก็เลื่อนลงไปอ่านกันเลย
CDC ไม่นิ่งนอนใจ
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคในสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้รับแจ้งเกี่ยวกับอาการของโรคปอดขั้นรุนแรงที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยจำนวนมากทั่วสหรัฐอเมริกา ซึ่งผู้ป่วยหลายรายนั้นมีความเชื่อมโยงกันในเรื่องของการใช้บุหรี่ไฟฟ้า
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาเริ่มทำการตรวจสอบและศึกษาเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2019 เพื่อดูว่ามันมีความเกี่ยวข้องกับโรคปอดขั้นรุนแรงดังกล่าวจริงหรือไม่
(การตรวจสอบดังกล่าวคือการศึกษาเกี่ยวกับทุกอย่างที่ถูกใช้ร่วมกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งนั่นรวมถึงตัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเองก็ด้วย)
ผู้เสียชีวิตคนแรก
ในวันที่ 17 สิงหาคม ได้มีการรายงานจากทาง CDC ว่าพวกเขาพบผู้ป่วยโรคปอดที่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้าราว 94 รายใน 14 รัฐ ก่อนที่จะเพิ่มเป็นมากกว่า 200 รายใน 22 รัฐ
และในวันที่ 23 สิงหาคม ก็ได้มีการรายงานพบผู้เสียชีวิตคนแรก (ไม่เอ่ยชื่อ) ที่น่าจะเกิดจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในรัฐอิลลินอยส์ โดยเขาคนนั้นสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่ตัวน้ำยามีเพียงสารนิโคติน
คำเตือนแรกจาก CDC โดยตรง
ต่อมาในวันที่ 6 กันยายน ทาง CDC ก็ได้ออกประกาศเกี่ยวกับการเตือนภัยผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าทุกคน หลังจากที่พวกเขาพบว่ามันมีความเกี่ยวข้องกับอาการป่วยดังกล่าวจริง
ผู้ป่วยที่พวกเขาพบนั้นก็มีทั้งคนที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าแบบที่มีแค่สารนิโคติน, แบบที่มีแค่สาร THC (สารสำคัญในกัญชา) และแบบที่มีทั้งสองอย่างนั้น
แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันอย่างเห็นได้ชัดในผู้ป่วยเหล่านั้นทุกคนก็คืออาการของโรคที่มีลักษณะเหมือนกัน รายงานผลการวิจัยทางคลินิกออกมาเหมือนกัน และไม่พบอาการติดเชื้อใดๆ ทำให้คาดว่ามันน่าจะเป็นผลมาจากสารเคมี
ผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
จากตอนแรกที่ทาง CDC ได้ออกมาประกาศว่ามีผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยอาการดังกล่าวแล้วไม่น้อยกว่า 2 ราย เวลาผ่านไปเพียงชั่วอึดใจ สำนักข่าวต่างประเทศจำนวนมากก็ได้ออกมารายงานเกี่ยวกับจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเท่าตัว
รายงานดังกล่าวเป็นของทางรัฐบาลสหรัฐฯ โดยตรง มีใจความว่า ณ วันที่ 7 กันยายน 2019 มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคปอดซึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า อย่างน้อย 5 ราย
นอกจากนั้นยังมีผู้ที่ป่วยด้วยอาการเดียวกันนี้มากกว่า 450 รายแล้ว
ในเวลาเดียวกันนั้น กรมสุขภาพในรัฐนิวยอร์ก ก็ได้ออกมาพูดถึงผลตรวจจากห้องแล็บว่า พวกเขาพบ ‘วิตามิน E’ จำนวนมากในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีส่วนผสมของน้ำมันกัญชา พบได้ในตลาดมืด
โดยน้ำยาในลักษณะเดียวกันนั้นได้ถูกใช้โดยผู้ป่วยภายในรัฐทั้ง 34 รายที่มีอาการของโรคปอดขั้นรุนแรง ซึ่งพวกเขาอธิบายว่าการสูดวิตามิน E เข้าไปในระบบหายใจเป็นจำนวนมากนั้นสามารถส่งผลเสียอันตรายร้ายแรงต่อร่างกายได้
หลังจากที่รายงานนี้ออกมา หลายคนก็ได้พุ่งประเด็นไปที่เรื่องของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีส่วนผสมของน้ำมันกัญชา (ซึ่งมีสาร THC) แต่ทว่าเรื่องนั้นจะสรุปว่ามันคือสาเหตุเพียงหนึ่งเดียวก็คงจะไม่ได้
เพราะผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้มีการพูดถึงความอันตรายของการใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบที่มีกลิ่น ซึ่งจากการศึกษาวิจัยแล้ว พวกเขาบอกว่ามันเป็นอะไรที่อันตรายต่อปอดเอามากๆ
โดยในเว็บไซต์ของทาง CDC เองก็ได้มีการเขียนบอกไว้ว่า…
“น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบมีกลิ่นบางชนิดอาจกินได้ แต่ไม่สามารถสูดดมเข้าไปได้ เนื่องจากว่าท้องของเรามีกระบวนการจัดการกับสารเหล่านั้นได้ดียิ่งกว่าปอด”
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังคงไม่มีข้อสรุปในเรื่องนี้
จำนวนผู้ป่วยยังคงเพิ่มขึ้น
นับตั้งแต่ที่ CDC ได้ออกมาบอกว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีความเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยโรคปอดขั้นรุนแรง หลังจากนั้นก็เลยมีการรายงานถึงการพบผู้ป่วยที่มีลักษณะเดียวกันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดกว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยผู้ป่วยเหล่านั้นก็ยังคงมีทั้งคนที่สูบเฉพาะที่มีสารนิโคติน คนที่สูบแบบมีกลิ่น และคนที่สูบแบบที่มีส่วนผสมของสาร THC หรือน้ำมันกัญชา
ดอกเตอร์ Lee Norman เลขานุการของกรมสุขภาพในรัฐแคนซัส กล่าวเอาไว้ในวันที่ 10 กันยายน ว่า…
“คนรักการสูบบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหลาย ผมขอให้คุณหยุด การตายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ รวมถึงผู้ป่วยโรคปอดหลายร้อยรายทั่วประเทศนั้น ล้วนเกิดจากปัญหาดังกล่าวทั้งสิ้น และมันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
ดอกเตอร์ Lee Norman
การตื่นตัวของชาวสหรัฐฯ
ในเวลาต่อมาก็ได้มีรายงานว่าทีมบริหารของ Donald Trump ได้มีการผลักดันให้สั่งแบนน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบมีกลิ่นทุกชนิดทั่วสหรัฐอเมริกา อันเป็นผลมาจากข่าวผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น
การผลักดันดังกล่าวนำไปสู่นโยบายสำคัญของรัฐนิวยอร์ก จากรายงานในวันที่ 15 กันยายน กล่าวว่า พวกเขาได้ทำการสั่งห้ามขายน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบมีกลิ่นทุกชนิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Andrew Cuomo ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า…
“การประกาศข้างต้นนั้นถือเป็นการรับมือฉุกเฉิน หยุดการขายน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบมีกลิ่นทุกชนิด”
“อย่างที่เราทราบกันว่าน้ำยาที่มีกลิ่นผลไม้หรือกลิ่นขนมหวานอะไรทำนองนั้น มันถูกทำขึ้นมาเพื่อดึงดูดใจกลุ่มวัยรุ่น และในวันนี้เราควรหยุดมันได้แล้ว เนื่องจากปัญหาผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคปอดที่เกิดขึ้น”
ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก
นอกจากนั้นโรงเรียนกว่า 100 แห่งในรัฐนิวเจอร์ซีย์ พวกเขาก็ได้มีการยื่นเรื่องขอให้มีการติดตั้งเครื่องตรวจจับควันบุหรี่ไฟฟ้า เอาไว้ภายในโรงเรียนอีกด้วย
โดยเครื่องดังกล่าวนั้นจะสามารถตรวจจับได้ทั้งควันไฟ ควันบุหรี่ รวมถึงควันบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อป้องกันไม่ให้นักเรียนแอบสูบสิ่งเหล่านั้นภายในโรงเรียน
บุคลากรของโรงเรียนเหล่านั้นเชื่อว่าวิธีการนี้จะช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นได้ หลังจากที่พบว่าผู้ป่วยโรคปอดที่มีความเกี่ยวข้องกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้านั้นมีไม่น้อยเลยที่เป็นเด็กวัยรุ่น
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่สามารถสรุปได้ว่าสาเหตุของโรคปอดขั้นรุนแรงที่มีความเกี่ยวข้องกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้านั้น แท้จริงแล้วมันเป็นผลมาจากตัวแท่งบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวน้ำยาชนิดไหนกันแน่
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ที่มา: Business Insider , Unilad , BBC , CDC , Medical Express , Independent , CNN , CBS 6 News , Inverse , Ladbible , The New York Times
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น