ตามการบันทึกไว้ในพระวรสารนักบุญลูกา หลังจากที่พระเยซูถูกประหารด้วยการตรึงไม้กางเขน วันหนึ่งสองลูกศิษย์ของพระองค์ก็ได้ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านชื่อเอมมาอูส และพบกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งซึ่งมาถามพวกเขาว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นบ้างที่กรุงเยรูซาเล็ม
ชายคนดังกล่าวเดินร่วมเดินทางกับลูกศิษย์ทั้งสองไปจนถึงหมู่บ้านเอมมาอูส และก่อนที่มื้ออาหารเย็นจะสิ้นสุดลง เขาก็ได้เปิดเผยตัวออกมาว่าจริงๆ แล้วเขาก็คือพระเยซูนั่นเอง
ถาพมื้ออาหารเย็นที่เอมมาอูส วาดโดยการาวัจโจเมื่อปี 1601
ตั้งแต่ในอดีตมา ทีมนักโบราณคดีหลายกลุ่มได้พยายามที่จะตามหาสถานที่ตั้งของหมู่บ้านเอมมาอูส สถานที่ซึ่งเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ครั้งนี้เกิดขึ้นมากันอย่างยาวนาน
จนกระทั่งเมื่อล่าสุดพวกเขาก็ได้ออกมาเปิดตัวรายงานการศึกษาชิ้นใหม่ ที่มีใจความสำคัญบอกว่าพวกเขาอาจจะพบหมู่บ้านเอมมาอูสที่หายไปแล้วก็เป็นได้
โดยรายงานการศึกษาชิ้นนี้มีกำหนดการที่จะตีพิมพ์ในเปเปอร์ New Studies in the Archaeology of Jerusalem and its Region และเกิดขึ้นจากทฤษฎีของนักโบราณคดีสองคน
ซึ่งอ้างว่าหมู่บ้านเอมมาอูสในปัจจุบันอาจจะกลายเป็นแหล่งโบราณคดีที่ชื่อว่า “Kiriath-jearim” ในดินแดนอิสราเอล
ภาพมุมสูงของ Kiriath-jearim
อันที่จริงแล้วนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่นักโบราณคดีตั้งข้อสงสัยว่าแหล่งโบราณคดีอายุ 2,200 ปีอย่าง Kiriath-jearim นั้นมีความเกี่ยวข้องกับหมู่บ้านเอมมาอูสมาก่อน อย่างไรก็ตามในรายงานชิ้นล่าสุด นักโบราณคดีได้มีการหยิบยกหลักฐานที่ค่อนข้างน่าสนใจอยู่หลายอย่าง
โดยหนึ่งในหลักฐานเหล่านั้น คือความจริงที่ว่าโบราณสถานแห่งนี้ ตั้งอยู่ห่างจากเยรูซาเล็มไป “60 สตาเดีย” (เท่ากับ 13 กิโลเมตรในปัจจุบัน) ซึ่งตรงกับระยะทางไปหมู่บ้านเอมมาอูสที่มีการบันทึกไว้ในพระวรสารนักบุญลูกาพอดี
อีกทั้งในอดีต นักโบราณคดียังมีการพบร่องรอยของการเสริมกำลังและเครื่องป้องกันข้าศึกในพื้นที่อีกด้วย หากอ้างอิงจากหนังสือมัคคาบี ในอดีตหมู่บ้านเอมมาอูสในเวลานั้นเอง ก็เคยถูกปกครองโดยทายาทของในนายพลของอเล็กซานเดอร์ และมีการเสริมกำลังและเครื่องป้องกันเช่นกัน
การขุดค้นที่ Kiriath-jearim
เพื่อเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้ทฤษฎีชิ้นนี้ ทีมสำรวจแหล่งโบราณคดีก็ยังมีโอกาสค้นพบเครื่องปั้นดินเผาที่มาจากช่วงเวลาเดียวกับที่พระเยซูยังไม่ถูกตรึงกางเขนอีก ซึ่งเป็นหลักฐานอย่างดีว่าที่แห่งนี้เคยมีคนอาศัยอยู่ในช่วงเวลาเดียวกับพระเยซูจริงๆ
แต่แม้ว่านี่จะเป็นทฤษฎีที่น่าสนใจและมีหลักฐานสนับสนุนก็ตาม แนวคิดนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหาและจุดขัดแย้งเลยเช่นกัน
ตัวอย่างเช่นชื่อ Kiriath-jearim และเอมมาอูสนั้นไม่มีจุดร่วมในทางภาษาศาสตร์เลย ต่างไปจากแหล่งโบราณคดีอื่นๆ ที่เคยถูกตั้งทฤษฎีว่าเป็นหมู่บ้านเอมมาอูสมาก่อนอย่าง Nicopolis
Nicopolis แหล่งโบราณคดีที่ในอดีตมักถูกมองว่าเป็นหมู่บ้านเอมมาอูสมาก่อน
อย่างไรก็ตามนี่ก็นับว่าเป็นรายงานที่มีคนให้ความสนใจเป็นอย่างมากเลยเช่นเดียวกัน และทีมนักโบราณคดีที่เขียนรายงานชุดนี้เองก็ได้ออกมาบอกว่า ทันทีที่รายงานชุดนี้จบลง พวกเขาจะกลับไปทำการขุดค้นแหล่งโบราณคดี Kiriath-jearim อีกครั้ง เพื่อตามหาหลักฐานเพิ่มเติมในทฤษฎีของพวกเขาต่อไป
ที่มา livescience
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น