ข่าวคราวเกี่ยวกับโครงการสร้างระบบขนส่งความเร็วสูงตามอุโมงค์สุญญากาศไฮเปอร์ลูปด้วยตัวพ็อด เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ถูกพูดถึงและเปิดเผยมาหลายปีแล้ว เพื่อเพิ่มศักยภาพในการขนส่งทั้งคนและสินค้าด้วยความเร็วมากๆ
ล่าสุดนี้ทางบริษัท Virgin Hyperloop ได้ประกาศถึงความสำเร็จในการทดสอบขนส่งคนผ่านพ็อดเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2020
การทดสอบในครั้งนี้อาจถือว่าเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ของการขนส่งบนโลก ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทีมงานของ Virgin Hyperloop พยายามคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีที่เกินขีดจำกัดเดิมๆ ที่นำมาใช้งานได้จริง
และจากความสำเร็จของการทดสอบในครั้งนี้ ทางบริษัทได้พิสูจน์ให้เห็นถึงจิตวิญญาณของนวัตกรรมที่จะนำมาเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทำงานอะไร และจะเดินทางอย่างไร ในอีกหลายปีข้างหน้า
สำหรับผู้โดยสารคู่แรกที่นำร่องการทดสอบก็คือสองผู้บริหารจาก Virgin Hyperloop เองได้แก่ Josh Giegel ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและ Sara Luchian ผู้อำนวยการฝ่ายประสบการณ์ลูกค้า
จากการทดสอบครั้งนี้ พ็อด XP-2 สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 172 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยระยะเดินทาง 500 เมตร ใช้เวลาเพียง 15 วินาทีเท่านั้น
นอกจากนั้นแล้วยังมีการทดสอบอีกจำนวน 400 ครั้ง โดยไม่มีผู้โดยสาร ซึ่งจากการทดสอบทั้งหมดพวกเขาก็มีความมั่นใจว่าเริ่มมาถูกทางแล้ว
Josh กล่าวว่าจากความตั้งใจที่เริ่มในโรงรถเมื่อ 6 ปีก่อน มีเป้าหมายง่ายๆ ก็เพื่อเปลี่ยนวิธีการเดินทางของผู้คน จนมาถึงวันนี้ถือว่าเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่สู่ฝันที่หวังเอาไว้ ไม่เพียงแต่ตัวเขาเอง แต่เพื่อทุกคนที่ต้องการ
นอกจากนั้นแล้ว Sara เองก็ระบุว่าหลังจากการทดสอบสัมผัสได้ถึงพลังช่วงดึงความเร็ว แต่ก็ไม่รู้สึกคลื่นไส้หรือไม่สบายอะไร
คลิปการทดสอบส่งคนผ่านพ็อดครั้งแรกของ Virgin Hyperloop
Two people have become the first passengers on a Hyperloop, a technology considered to be the future of high-speed ground transport, capable of transporting people at 1,000 kilometres an hour | Read more: https://t.co/V5aQ6txpsC pic.twitter.com/1QwSXJNDc0
— RTÉ News (@rtenews) November 9, 2020
สำหรับพ็อดที่ใช้ทดสอบคือรุ่น XP-2 ถูกออกแบบและปรับแต่งเน้นไปที่ความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นหลัก รองรับเพียงแค่ 2 ที่นั่งเพื่อสาธิตให้เห็นว่าผู้โดยสารสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย
ส่วนตัวพ็อดจริงๆ ของ XP-2 นั้นจะมีความกว้างและมีที่นั่งรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 28 คน
อุโมงค์ที่ใช้ในการทดสอบในทะเลทราย รัฐเนวาดา
ทางบริษัทเองก็ยังมีแผนที่จะพัฒนาบรรลุไปให้ถึงความเร็ว 1,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมงให้ได้ พร้อมกับตั้งเป้าในการได้รับรองความปลอดภัยภายในปี 2025 และพร้อมจะให้บริการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2030
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ที่มา: gulfnews, cnn, rte, theverge, cbc
Advertisement
0 Comments