ถ้าพูดว่า “ออกไปเดินสูดอากาศ สงบสติอารมณ์” ฟังดูแล้วมันก็ไม่น่าใช่เรื่องแปลกอะไร แต่สิ่งที่แปลกสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็คือ เขาดันเดินไปไกลม๊ากกกกกกกกกกกก
ช่วงเวลาประมาณตี 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมือง Gimarra ประเทศอิตาลี ได้ทำการออกตรวจตราตามปกติ เพื่อดูว่าประชาชนปฏิบัติตามกฎเคอร์ฟิวอย่างเคร่งครัด ไม่ออกมานอกบ้านเกินเวลาที่กำหนดในช่วงนี้
และนั่นก็ทำให้พวกเขาได้เจอกับชายคนหนึ่งที่กำลังเดินอยู่ริมถนนอันเงียบสงัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาตัวเขาไปยังสถานีตำรวจท้องถิ่น สอบถามถึงที่มาที่ไปที่ทำให้เขาออกมาเดินอยู่คนเดียว
จากการระบุตัวตนจึงได้ทราบว่า เขาคือคนที่ถูกระบุเอาไว้ว่าหายตัวไปจากบ้าน โดยผู้ที่เป็นคนแจ้งความก็คือภรรยาของเขาเอง
ชายวัย 48 ปี (ไม่ระบุชื่อ) จึงเปิดใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เขาเกิดมีปากมีเสียงกับภรรยาขึ้น เลยตัดสินใจออกมาเดินข้างนอกเพื่อที่จะได้สูดอากาศ สงบสติอารมณ์ของตัวเอง
แต่ความพีคมันอยู่ตรงที่ว่าบ้านของชายคนนี้แกอยู่ที่เมือง Como ทางตอนเหนือของมิลาน ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่าเขาเดินมาเป็นระยะทางไกลกว่า 418 กิโลเมตรเลยทีเดียว!!
“ผมเดินมาตลอดทาง ตลอดระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ โดยที่ผมไม่คิดที่จะใช้บริการการขนส่งใดๆ ประทังชีวิตได้จากอาหารและเครื่องดื่มที่มีคนใจดีหยิบยื่นมาให้ระหว่างทาง ผมสบายดี อาจแค่เหนื่อยนิดหน่อย” เขากล่าว
เฉลี่ยแล้วเขาเดินวันละ 60 กิโลเมตร
รายงานวันที่ 1 ธันวาคม 2020 ระบุว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ฟังเรื่องราวการเดินเท้าของเขาแล้ว ตำรวจก็ตัดสินใจปล่อยเขาไป ทำให้ชายคนนี้ไม่จำเป็นต้องเสียค่าปรับ 400 ยูโร (ราว 14,600 บาท) โทษฐานที่ละเมิดกฎเคอร์ฟิว
อย่างไรก็ตาม ตำรวจก็ได้ติดต่อไปหาภรรยาของเขา และเปิดโรงแรมในท้องที่ให้เขาได้พักผ่อนเป็นการชั่วคราว รอให้ภรรยาเดินทางมารับตัวเขากลับบ้านไป
และหวังว่าทั้งสองคนจะไม่ทะเลาะอะไรกันอีกนะ…
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ที่มา: il Resto del Carino , OddityCentral
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น