ความเป็นมนุษย์ที่อยู่ในจิตใจของทุกคนนั้น ไม่อาจบอกเล่าได้ผ่านตัวหนังสือทั้งหมด เพราะมันจะถูกแสดงออกมาในรูปแบบการกระทำแทน
ซึ่งเรื่องราวที่ท่านกำลังจะอ่านต่อไปนี้ อาจทำให้จิตใจดำดิ่งลึกลงไปได้จากคดีโด่งดังในปี 2018 ที่ถูกหยิบนำมาตีแผ่เป็นสารคดีอีกครั้งในปี 2020
การฆาตกรรมครอบครัววัตส์
เหตุการณ์การฆาตกรรมครอบครัววัตส์นี้เกิดขึ้นในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 13 สิงหาคม 2018 ณ เมืองเฟรดเดอริก รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนอยู่ Christopher Lee Watts ให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆาตกรรมภรรยาอุ้มท้อง Shanann Cathryn Watts ด้วยการบีบคอ
ภายหลังเขาก็ยอมรับสารภาพว่าลงมือฆาตกรรมลูกสาววัย 4 ขวบ Bella และลูกสาววัย 3 ขวบ Celeste ด้วยการคลุมผ้าห่มให้ขาดอากาศหายใจ
Chris รับสารภาพผิดในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2018 ในข้อหาฆาตกรรมระดับที่ 1 ซึ่งต้องโทษสูงสุดคือประหารชีวิต แต่เนื่องจากโทษดังกล่าวถูกถอนออกไปจากคำตัดสินแล้ว เขาจึงถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตโดยไม่รอลงอาญา
ภูมิหลังของคดีฆาตกรรมอันดำมืดของครอบครัววัตส์
Christopher Lee Watts และ Shanann Cathryn Watts พบกันครั้งแรกในปี 2010 และแต่งงานกันในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2012
พวกเขามีลูกสาวด้วยกัน 2 คน ได้แก่ Bella Marie Watts กับ Celeste Cathryn “CeCe” Watts และซื้อบ้านในเมืองเฟรดเดอริก รัฐโคโลราโด เมื่อปี 2013 จนกระทั่งถูกประกาศขายในปี 2015 จากการล้มละลาย
Chris เป็นพนักงานของบริษัทปิโตรเลียม ขณะที่นาง Shanann ทำงานในบริษัทด้านการตลาด และการเสียชีวิตของ Shanann นั้นเธอกำลังอุ้มท้องลูกชายคนที่ 3 ได้ 15 สัปดาห์ ที่ตั้งชื่อให้ไว้แล้วว่า Niko Lee Watts
การหายตัวไปของภรรยาและลูก
Shanann เดินทางกลับมาที่บ้านหลังจากไปทำงานต่างรัฐมาเมื่อเวลา 1.48 น. ในวันที่ 13 สิงหาคม 2018 โดยมี Nickole Utoft Atkinson เพื่อนร่วมงานเป็นคนมาส่ง ในตอนนี้ลูกๆ ก็ยังอยู่ด้วยเช่นกัน
ทว่าหลังจากวันนั้น Nickole ได้แจ้งความคนหาย หลังจากที่ Shanann ไม่ได้ไปตรวจครรภ์ตามนัดและไม่มีการตอบกลับข้อความใดๆ
และหลังจากที่เธอไม่โผล่ไปประชุมงาน Nickole จึงตามไปถึงที่บ้านในช่วงเวลา 12.10 น. แต่ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากภายในบ้านแม้จะกดกริ่งและเคาะประตูแล้วก็ตาม
Nickole จึงแจ้งให้ Chris ทราบขณะที่เขากำลังทำงานอยู่ และได้โทรแจ้งตำรวจทันทีหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงบ้านของครอบครัว Watts เพื่อตรวจดูสวัสดิภาพของคนภายในบ้านประมาณ 13.40 น.
Chris ตามมาสมทบทีหลังและได้ให้การกับตำรวจพร้อมกับหาวิธีในการตามหาตัวภรรยาให้เจอ แม้ว่าจะยินยอมให้ตำรวจค้นบ้านทั้งหลังแล้ว แต่กลับไม่เจอวี่แววของ Shanann หรือลูกๆ เลย
ทีมค้นหาพบเพียงแค่กระเป๋าสตางค์ ที่มีโทรศัพท์และกุญแจอยู่ภายในรถของเธอเท่านั้น ซึ่งรถคันนี้ก็จอดอยู่ภายในโรงรถ ส่วนแหวนแต่งงานก็พบอยู่บนเตียงนอนใหญ่
สำนักงานสอบสวนโคโลราโดและทีมเอฟบีไอร่วมทำการสืบสวนในวันถัดมา วันที่ 14 สิงหาคม 2018 Chris ให้การว่าเขาไม่รู้ถึงเบาะแสของภรรยาหรือลูกสาวเลย
และไม่ได้เจอหน้าภรรยามาตั้งแต่ช่วง 5.15 น. ของเมื่อวาน หลังจากที่เขาออกไปทำงานแล้ว
Chris ให้สัมภาษณ์สื่อโทรทัศน์ท้องถิ่นเรียกร้องและขอร้องให้ภรรยาและลูกสาวกลับบ้านด้วยความเศร้า โดยมีทีมนักสืบและสุนัขค้นหาทำการค้นบ้านระหว่างการให้สัมภาษณ์ไปด้วย
ความลับที่ถูกเปิดเผย
Chris ถูกจับกุมตัวในวันที่ 15 สิงหาคม 2018 2 วันหลังการหายตัวไปของภรรยาและลูกสาว ตามคำให้การการจับกุมระบุว่าเขาไม่ผ่านการทดสอบของเครื่องจับเท็จ และยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆาตกรรม Shanann เอง
เขาขอพูดคุยกับพ่อของตัวเองก่อนที่จะทำการสารภาพดังกล่าว ทั้งนี้แรงจูงใจของการลงมือคือการที่เขาแอบปันใจไปมีหญิงอื่น และต้องการที่จะแยกทางกับ Shanann
ระหว่างการสอบปากคำ เขาอ้างว่าภรรยาเป็นคนลงมือรัดคอลูกด้วยความโกรธหลังจากที่เขาขอแยกทางกับเธอ หลังจากนั้นเขาก็บีบคอภรรยาจนถึงความตาย…
และนำร่างภรรยาไปฝังในพื้นที่เก็บน้ำมันของบริษัทที่ทำงาน แต่ในความเป็นจริงคือเขาคือผู้ลงมือฆาตกรรมทั้งภรรยาและลูกสาวทั้ง 2 คน
การให้การของเขาแต่ละครั้ง พยายามปกปิดว่าตนเองไม่รู้เรื่องอะไรเลยอยู่ตลอด
Chris Watts, now accused of killing his wife and children, used these words to describe his daughters on Tuesday (day before his arrest). #9news pic.twitter.com/b0pUHOobOZ
— Chris Vanderveen (yep…me) (@chrisvanderveen) August 16, 2018
ทีมสืบสวนตามไปพบร่างของครอบครัว Watts ในพื้นที่เก็บน้ำมันของบริษัท Anadarko Petroleum จริงตามที่เขากล่าวอ้างในวันที่ 16 สิงหาคม 2018 ซึ่งทางบริษัทก็ได้ไล่นาย Chris ออกตั้งแต่วันที่ 15 หลังจากที่เขาถูกจับกุมตัวทันที
ร่างของลูกสาวทั้ง 2 คนถูกซ่อนเอาไว้ในถังเก็บน้ำมัน ส่วนร่างของ Shanann ที่อุ้มท้องลูกชายคนที่ 3 ถูกฝังเอาไว้ในหลุมที่ถูกขุดตื้นๆ ในบริเวณใกล้เคียง
อดีตเจ้าหน้าที่เอฟบีไอลงความเห็นว่าคดีฆาตกรรมครอบครัวนี้ เป็นคดีที่มีจุดจบที่เกิดขึ้นได้ยาก เพราะการฆาตกรรมยกครัวส่วนใหญ่มักจะจบลงที่ผู้ลงมือฆ่าตัวตายหลังฆาตกรรมไปแล้ว ซึ่งเป็นการไตร่ตรองความผิดของตนเองที่ไม่สมควรมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
อีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญที่เปิดออกมาจากปากของทนายของนาย Chris ระบุว่า เขารับสารภาพว่าลงมือฆาตกรรม Shanann จริงหลังจากที่ทะเลาะกันเรื่องขอหย่า และในระหว่างที่ลงมือนั้นลูกสาว Bella ก็เดินเข้ามาเห็นพอดี
Chris จึงบอกกับ Bella ว่าแม่กำลังป่วยอยู่ ก่อนที่จะนำร่างภรรยาไปฝังและกลับมาที่บ้านเพื่อลงมือฆาตกรรมลูกสาวทีละคนอย่างเลือดเย็น
รายงานพิเศษบนหน้าสื่อ
ในเดือนธันวาคม 2018 สถานีโทรทัศน์ ABC News ได้เชิญพ่อแม่ของ Shanann มาให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่ลูกสาวของตนเองถูกฆาตกรรม
สถานีโทรทัศน์ HLN ก็มีรายงานสกู๊ปพิเศษในเดือนเดียวกันในชื่อ Family Massacre: Chris Watts Exposed เปิดเผยให้เห็นภาพจากกล้องของเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะที่สอบสวนนาย Chris อยู่
Nichol Kessinger (ขวา)
พร้อมกันนี้ทางสำนักงานสอบสวนโคโลราโด ก็ได้ปล่อยวิดีโอการสัมภาษณ์ Nichol Kessinger ชู้ของนาย Chris ที่เปิดเผยว่าเขามีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปเพียงไม่กี่วันเกิดจะเกิดการฆาตกรรม
การดัดแปลงในรูปแบบภาพยนตร์และสารคดี
วันที่ 26 มกราคม 2020 สถานีโทรทัศน์ Lifetime ได้ปล่อยภาพยนตร์สารคดี Chris Watts: Confessions of a Killer ซึ่งเป็นการดัดแปลงมาจากข่าวที่เกิดขึ้น
ทว่าทางครอบครัวของ Shanann ไม่เห็นด้วยกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะทางครอบครัวไม่ได้รับการปรึกษาแม้แต่น้อย และไม่เคยรับรู้เลยว่ามีการนำเรื่องฆาตกรรมของครอบครัวมาทำเป็นภาพยนตร์
ทั้งนี้ พวกเขากล่าวว่าไม่เคยได้รับผลประโยชน์ใดๆ จากภาพยนตร์เรื่องนี้ และกลัวว่าจะยิ่งเป็นการยุยงส่งเสริมให้ถูกคุกคามทางโลกออนไลน์มากขึ้นกว่าเดิมจากที่โดนมาเยอะอยู่แล้ว
จนมาถึงวันที่ 30 กันยายน 2020 Netflix ได้ปล่อยภาพยนตร์สารคดี American Murder: The Family Next Door เพื่อตีแผ่และถ่ายทอดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับการฆาตกรรมครอบครัววัตส์
เป็นการหยิบยกภาพจากเหตุการณ์จริงมาร้อยเรียงต่อกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอที่อัดถ่ายกันเองในครอบครัว โพสต์ข้อความบนโลกโซเชียล ข้อความต่างๆ และบันทึกภาพต่างๆ ที่ได้รับมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ซึ่งต่างก็มีเสียงตอบรับจากผู้ชมไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘หดหู่’ ‘ดำดิ่ง’ และ ‘มืดมน’ ที่สุด
เรียบเรียงโดย #เหมียวเลเซอร์
ที่มา: goodhousekeeping, marieclaire, insider, abc11, coloradoan
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น