ลึกเข้าไปในป่าของหลายรัฐในสหรัฐอเมริกา ยังคงมีสถานที่ซึ่งถูกล้อมด้วยรั้วลวดหนาม และห้ามไม่ให้คนทั่วไปเข้าอยู่แห่งหนึ่ง ซึ่งเก็บเอาความลับทางวิทยาศาสตร์ไว้มากมายอย่างไม่น่าเชื่อ
สถานที่แห่งนี้ถูกจัดว่าเป็น “ฟาร์ม” ประเภทหนึ่ง อย่างไรก็ตามต่างไปจากฟาร์มแพะ ฟาร์มแกะ ที่แห่งนี้กลับเก็บ “ศพ” เอาไว้เสียอย่างนั้น แถมคำว่า “เก็บไว้” ในที่นี้ยังหมายถึงการโยนศพไว้ให้เน่ากลางที่แจ้งเลยด้วย
นั่นเพราะสถานที่ที่กล่าวมานี้คือ “ฟาร์มศพ” (Body Farm) สถานที่ซึ่งนักวิทยาศาสตร์จะนำศพของมนุษย์มาทิ้งเอาไว้ในสภาพต่างๆ เพื่อศึกษาการเน่าเปื่อย หรือความรู้เรื่องต่างๆ เกี่ยวกับร่างไร้วิญญาณของมนุษย์นั่นเอง
ฟาร์มศพนั้น เป็นอะไรที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นานอย่างที่คิด โดยมันเพิ่งจะเกิดขึ้นในช่วงปี 1971
หลังจากที่นักมานุษยวิทยาชื่อ William M. Bass ขอความร่วมมือจากตำรวจ ในการนำศพไปทิ้งในที่โล่ง เพื่อตรวจสอบการเน่าเปื่อยของศพเทียบกับที่ตำรวจพบในคดี
ซึ่งการทดลองในเวลานั้นเอง ก็ทำให้นักวิทยาศาสตร์ได้แนวคิดการทำฟาร์มศพขึ้น
เพื่อที่จะทำให้พวกเขาสามารถระบุลักษณะการเน่าเปื่อย ในสถานการณ์ต่างๆ อย่างในรถ กลางแจ้ง หรือในน้ำ และในช่วงเวลาที่ต่างกันตั้งแต่หลายวันยันหลายปีได้ง่ายขึ้น
โดยศพที่ใช้ในฟาร์มศพนั้น ทั้งหมดจะเป็นศพที่ได้รับบริจาคมาจากผู้บริจาคร่างกายอีกที และสถานที่ที่ศพถูกนำไปทิ้งไว้เองบ่อยครั้งก็จะมีการป้องกันศพไม่ให้มีสัตว์หลงเข้ามากินเป็นอย่างดี
แม้ในบางกรณีเราก็อาจจะเห็นข่าวแมวแอบเข้ามากินศพได้เหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อช่วงต้นปี 2020 ที่ผ่านมา
แน่นอนว่านี่อาจจะเป็นการทดลองที่ทำให้หลายๆ คนรู้สึกหดหู่อยู่บ้างแต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้นักวิทยาศาสตร์ได้รับความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับการเน่าเปื่อยของร่างกายมนุษย์เช่นกัน
(ตัวอย่างประโยชน์ของฟาร์มศพก็อย่างเช่นการที่ นักวิทย์พบ เราอาจใช้ “ต้นไม้” ช่วยในค้นการหาศพมนุษย์ได้ แม้ถูกซ่อนไว้ท่ามกลางป่าลึก)
ดังนั้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราจึงมีฟาร์มศพในรูปแบบนี้โผล่ขึ้นมาในหลายต่อหลายรัฐของสหรัฐอเมริกา
และมันก็ไม่แน่เหมือนกันว่าในอนาคต เราอาจจะได้เห็นสถานที่คล้ายๆ กันนี้ ในอีกหลายประเทศเลยก็เป็นได้
ที่มา iflscience และ aetv
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น