กลายเป็นข่าวที่อาจจะสร้างความที่สบายใจให้กับหลายๆ คนไปแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ 21 กันยายน ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา
องค์การอนามัยโลกได้มีการออกมากล่าวหารัฐบาลของสหสาธารณรัฐแทนซาเนียประเทศที่อยู่บนชายฝั่งตะวันออกของแอฟริกา และมีชายแดนติดกับประเทศคองโก ว่ามีการมีการระงับข้อมูลโดยจงใจเกี่ยวกับกรณีผู้ป่วยต้องสงสัยเกี่ยวกับไวรัสอีโบลาในประเทศ
การรักษาโรคอีโบลาในประเทศคองโก
ข้อกล่าวหาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ในช่วงที่ผ่านมาได้มีรายงานการเจ็บบ่วยที่เข้าขายโรคเกี่ยวกับไวรัสอีโบลาปรากฏขึ้นมาในหลายพื้นที่ของแทนซาเนีย โดยมีจุดเริ่มต้นจากเมืองดาร์-เอส-ซาลาม อันเป็นอดีตเมืองหลวงของประเทศ
องค์การอนามัยโลกได้มีการออกมาบอกว่าเมื่อองค์การติดต่อไปยังรัฐบาลแทนซาเนียเพื่อข้อเข้าไปทำการตรวจเลือดผู้ป่วย พวกเขาก็ถูกปฏิเสธการเข้าถึงผู้ป่วย และได้รับการรายงานจากทางรัฐบาลแทนซาเนียเข้ามาแทนว่าโรคที่เกิดขึ้นไม่ใช่ไวรัสอีโบลา
อ้างอิงจากทางองค์การ ทางแทนซาเนียไม่ยอมเสนอการวินิจฉัยอื่นๆ สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามองค์การอนามัยโลกกลับได้รับรายงาน “อย่างไม่เป็นทางการ” มาแทนว่ามีนายแพทย์วัย 34 ปีคนหนึ่งในประเทศเดินทางกลับมาจากยูกันดาเสียชีวิตในเมืองเมื่อวันที่ 8 กันยายน และถูกตรวจพบโรคอีโบลา
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เองทำให้องค์การอนามัยโลกเชื่อว่ารัฐบาลของแทนซาเนียกำลังพยายามหลีกเลี่ยงที่จะส่งข้อมูลให้กับองค์การอนามัยโลก ทั้งๆที่ “ข้อมูลดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็นต่อองค์การเพื่อที่พวกเขาจะทำความเข้าใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์นี้”
ไวรัสอีโบลา
“ข้อมูลที่มีอยู่จำกัดจากรัฐบาลแทนซาเนียแสดงให้เห็นถึงอุปสรรคท้าทายในการประเมินความเสี่ยงที่เกิดจากเหตุการณ์นี้เป็นอย่างดี” องค์การอนามัยโลกเสริม
สื่อต่างประเทศยังมีการระบุไว้ด้วยว่าทางประเทศแทนซาเนียนั้น ในอดีตไม่เคยมีรายงานของโรคอีโบลามาก่อนเลย และในกรณีที่มีการระบาดของไวรัสนี้จริงๆ ประเทศที่พึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลักอย่างแทนซาเนียก็อาจจะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก
เจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วยอีโบลาในประเทศคองโก
ทั้งนี้เองในกรณีที่มีการค้นพบการระบาดของอีโบลาในแทนซาเนียจริงๆ คุณ Tarik Jasarevic โฆษกขององค์การอนามัยโลก ก็ได้ออกมายืนยันว่าทางองค์การอนามัยโลกได้เติมพร้อมที่จะสนับสนุนการรักษาผู้ป่วยในประเทศอย่างเต็มที่และพวกเขาก็
“พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกในการส่งเสบียงต่างๆ รวมทั้งวัคซีนและการบำบัด ทันทีที่ทางรัฐบาลของแทนซาเนียส่งคำข้อร้องมายังองค์การ”
ที่มา gizmodo, who และ washingtonpost
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น